ข้อสำคัญ
1. เชี่ยวชาญศิลปะของการสร้างความประทับใจแรก
ภาพแรกที่ผู้คนเห็นคุณเปรียบเสมือนภาพโฮโลแกรมที่สว่างไสว มันจดจำฝังลึกในสายตาของผู้รู้จักใหม่ และอาจติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขาหรือเธอไปตลอดกาล
ภาษากายสื่อสารได้มากกว่าคำพูด ท่าทาง รอยยิ้ม และการสบตาของคุณ คือรากฐานสำคัญของความประทับใจแรกที่ทรงพลัง ยืนตัวตรง ไหล่ผาย คางยกสูง และแสดงออกถึงความมั่นใจ พัฒนารอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจจนถึงดวงตา ซึ่งผู้เขียนเรียกว่า “รอยยิ้มล้นใจ” รักษาการสบตาอย่างมั่นคงเพื่อสื่อถึงความสนใจและความน่าเชื่อถือ
เตรียมการแนะนำตัวที่น่าจดจำ จัดเตรียมคำแนะนำตัวสั้น ๆ ที่น่าสนใจ โดยเน้นคุณลักษณะและความสนใจเฉพาะตัว ใช้เทคนิค “ประวัติย่อสั้น ๆ” เพื่อปรับแต่งการแนะนำตัวให้เหมาะกับแต่ละคนที่คุณพบ โดยเน้นจุดเด่นที่เขาหรือเธอจะรู้สึกเชื่อมโยงได้เป็นพิเศษ
- ฝึกเทคนิค “หมุนตัวเด็กน้อย” ให้ความสนใจเต็มที่กับผู้รู้จักใหม่
- ใช้ “การกระพริบคิ้ว” อย่างรวดเร็วเพื่อสื่อถึงการจดจำและมิตรภาพ
- ฝึกจับมือให้มั่นคง แห้ง และสอดคล้องกับแรงจับมือของอีกฝ่าย
2. เป็นนักสนทนาที่ชำนาญ
การพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใช่เรื่องของข้อเท็จจริงหรือคำพูด แต่มันคือดนตรี คือท่วงทำนอง การพูดคุยเล็ก ๆ คือการทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ
ปลูกฝังความอยากรู้อยากเห็นอย่างแท้จริง เข้าหาการสนทนาด้วยความสนใจจริงใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับอีกฝ่าย ตั้งคำถามเปิดที่กระตุ้นให้เขาหรือเธอเล่าประสบการณ์ ความคิดเห็น และความหลงใหล ฟังอย่างตั้งใจและให้ความสนใจเต็มที่กับคำตอบ
เชี่ยวชาญศิลปะการพูดคุยเล็ก ๆ ใช้เทคนิค “นักสืบคำพูด” เพื่อจับสัญญาณเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบทสนทนาและขยายเรื่องที่อีกฝ่ายสนใจจริง ๆ ใช้เทคนิค “เลียนแบบคำพูด” โดยพูดซ้ำคำสุดท้ายของประโยคเพื่อให้บทสนทนาไหลลื่น
- ใช้ “รอยยิ้มล้นใจ” เพื่อสร้างความอบอุ่นและเปิดกว้าง
- ฝึก “การปรับเสียง” โดยเปลี่ยนโทนและจังหวะให้สอดคล้องกับพลังงานของอีกฝ่าย
- ใช้ “เอฟเฟกต์ฮาโล” โดยหาจุดที่ชื่นชมจริง ๆ ในตัวอีกฝ่าย
3. พูดอย่างผู้มีอิทธิพล
ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่รู้วิธีบอกข่าวร้ายแก่ผู้อื่น และรู้ด้วยว่าจะไม่บอกข่าวใด ๆ เลยแม้เมื่อถูกกดดัน
สร้างบรรยากาศแห่งอำนาจ พูดด้วยความมั่นใจและชัดเจน หลีกเลี่ยงคำเติมเต็มและความลังเล ใช้คำศัพท์ที่หลากหลายแต่ไม่ซับซ้อนเกินไป ฝึกเทคนิค “จังหวะคำพูดของช่างทำกราม” เพื่อใส่คำพูดที่ทรงพลังและน่าจดจำลงในคำพูดของคุณ
เชี่ยวชาญศิลปะของเวลาและการส่งสาร เรียนรู้ว่าเมื่อใดควรพูดและเมื่อใดควรฟัง ใช้การหยุดชั่วคราวอย่างมีชั้นเชิงเพื่อเน้นและให้คำพูดซึมซับเข้าไป พัฒนาความสามารถในการบอกข่าวดีและข่าวร้ายด้วยความสุภาพและเป็นมืออาชีพ
- ใช้เทคนิค “แผ่นเสียงแตก” เมื่อจำเป็นต้องยืนหยัดอย่างมั่นคง
- ฝึกเทคนิค “จำกัดการขยับเขยื้อน” เพื่อดูมั่นใจและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
- ใช้ “ภาพลักษณ์ทรงพลัง” โดยใช้การเปรียบเทียบและอุปมาอุปไมยที่ชัดเจนเพื่อให้จุดของคุณน่าจดจำ
4. เชื่อมต่อกับใครก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา
ความเหมือนกันสร้างแรงดึงดูด แต่ในป่ามนุษย์ เสือใหญ่รู้ความลับ เมื่อคุณชะลอการเปิดเผยความเหมือน หรือปล่อยให้เขาค้นพบเอง มันจะมีพลังมากกว่า
เป็นนักสื่อสารที่ปรับตัวได้เหมือนกิ้งก่า ปรับสไตล์การสื่อสารให้เข้ากับคนที่คุณพูดด้วย ใช้เทคนิค “ความซับซ้อนของกิ้งก่า” เพื่อเลียนแบบภาษากาย โทนเสียง และรูปแบบการพูดอย่างละเอียดอ่อน สร้างความรู้สึกผูกพันและสบายใจโดยไม่รู้ตัว
หาจุดร่วม ใช้เทคนิค “บำบัดการสับสน” เพื่อขยายความรู้และประสบการณ์ของคุณ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับคนจากทุกวงการ เมื่อค้นพบความสนใจหรือประสบการณ์ร่วม ใช้เทคนิค “ฆ่าคำว่า ‘ฉันก็เหมือนกัน’ อย่างรวดเร็ว” เพื่อเปิดเผยอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้เกิดผลสูงสุด
- ฝึก “การสะท้อนคำพูด” โดยใช้คำและวลีเดียวกับคู่สนทนา
- ใช้เทคนิค “หน้าจอแอบแฝง” เมื่อจำเป็นเพื่อผ่านผู้คัดกรอง
- ใช้ “การสื่อสาร-คุณ” โดยเน้นความสนใจและความต้องการของอีกฝ่าย
5. สร้างความสัมพันธ์และเคมีในทันที
เคมี เสน่ห์ และความมั่นใจ คือสามลักษณะที่ผู้ชนะในทุกวงการมีร่วมกัน
สร้างความผูกพันทางอารมณ์ ใช้เทคนิค “ประวัติศาสตร์ทันที” เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมและมุกในวงในอย่างรวดเร็ว ใช้เทคนิค “เราเร็วเกินไป” เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวและเป้าหมายร่วมกัน ฝึกความเห็นอกเห็นใจและการฟังอย่างตั้งใจเพื่อทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าได้รับความเข้าใจอย่างแท้จริง
ใช้พลังของการสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด ใช้เทคนิค “สายตาติดหนึบ” เพื่อรักษาการสบตาที่แข็งแรงและสื่อถึงความสนใจลึกซึ้ง ใช้เทคนิค “หมุนตัวเด็กน้อย” เพื่อให้ความสนใจเต็มตัวกับผู้พูด ใช้ภาษากายเปิดเผยเพื่อดูเป็นมิตรและมั่นใจ
- ใช้ “รอยยิ้มล้นใจ” เพื่อสร้างความอบอุ่นและเปิดกว้าง
- ฝึก “การปรับเสียง” โดยเปลี่ยนโทนและจังหวะให้สอดคล้องกับพลังงานของอีกฝ่าย
- ใช้ “เอฟเฟกต์ฮาโล” โดยหาจุดที่ชื่นชมจริง ๆ ในตัวอีกฝ่าย
6. ใช้พลังของคำชมและคำยกย่อง
มีคนสองประเภทในชีวิตนี้: คนที่เดินเข้าห้องแล้วพูดว่า “เอาล่ะ นี่ฉันเอง!” กับคนที่เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “อ้า เจอคุณแล้วนี่เอง”
เชี่ยวชาญศิลปะของคำชมที่จริงใจ เรียนรู้การให้คำชมที่เฉพาะเจาะจงและจริงใจ โดยเน้นที่การกระทำ การตัดสินใจ หรือบุคลิกภาพ มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ใช้เทคนิค “คำชมฆาตกร” เพื่อมอบคำชมที่ทรงพลังและน่าจดจำซึ่งสะท้อนคุณลักษณะเฉพาะที่คุณสังเกตเห็น
เป็นผู้รับคำชมที่ชำนาญ ฝึกเทคนิค “บูมเมอแรง” เพื่อรับคำชมอย่างมีมารยาทและสะท้อนความรู้สึกบวกกลับไปยังผู้ให้ หลีกเลี่ยงการดูถูกตัวเองหรือปฏิเสธคำชม ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่ได้รับการยอมรับ
- ใช้เทคนิค “เกรปไวน์กลอรี่” เพื่อกระจายคำชมในทางอ้อม
- ฝึก “ความยิ่งใหญ่ที่แฝงเร้น” โดยบอกเป็นนัยถึงคุณลักษณะที่น่าชื่นชม
- ใช้ “เกมหลุมฝังศพ” เพื่อค้นหาสิ่งที่ผู้คนให้คุณค่ามากที่สุดในตัวเอง
7. ยกระดับการสื่อสารทางโทรศัพท์
บุคลิกภาพของคุณ ของฉัน และของทุกคนเปรียบเสมือนการแสดงละครเวที คุณต้องการให้การแสดงของคุณประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ล้มเหลว
เพิ่มพลังเสียงของคุณ ชดเชยการขาดสัญญาณภาพด้วยการใช้เสียงที่แสดงอารมณ์มากขึ้นทางโทรศัพท์ ใช้เทคนิค “ท่าทางพูด” เพื่อบรรยายปฏิกิริยาที่ไม่ใช้คำพูดของคุณ ใช้ระดับพลังงานและความหลากหลายของเสียงที่สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อดึงดูดผู้ฟัง
เชี่ยวชาญมารยาทและเทคนิคทางโทรศัพท์ ใช้เทคนิค “โอ้ว ว้าว นี่คุณเอง!” เพื่อทำให้ผู้โทรรู้สึกพิเศษและได้รับการยอมรับ ฝึกเทคนิค “เวลาของคุณเป็นสีอะไร?” เพื่อเคารพตารางเวลาของผู้อื่นและเพิ่มโอกาสในการสนทนาที่มีประสิทธิภาพ
- สร้างข้อความต้อนรับในระบบฝากข้อความที่เป็นมืออาชีพและเปลี่ยนทุกวัน
- ใช้เทคนิค “ฝนชื่อ” เพื่อสร้างความใกล้ชิด
- ฝึก “เล่นซ้ำทันที” โดยบันทึกและวิเคราะห์การโทรสำคัญของคุณ
8. ควบคุมบรรยากาศงานสังคมเหมือนนักการเมือง
เมื่อได้รับเชิญไปงานเลี้ยง ส่วนใหญ่เราจะล่องลอยอยู่ในความคิดฟุ้งซ่านแบบนี้: “อืม งานนี้น่าจะสนุก... ไม่รู้ว่าจะมีอาหารไหม... หวังว่าจะอร่อย... อาจมีคนที่น่าสนใจ... ไม่รู้ว่าเพื่อนคนนั้นจะมาไหม... โอ้ ฉันควรใส่อะไรดีนะ?”
เตรียมตัวอย่างมีชั้นเชิง เข้าสู่งานสังคมด้วยทัศนคติของนักการเมือง ใช้ “เช็คลิสต์งานเลี้ยง 6 ข้อ” เพื่อเตรียมตัวอย่างครบถ้วน: ใครจะมา? ควรมาถึงเมื่อไหร่? ควรนำอะไรไป? งานนี้จัดขึ้นเพื่ออะไร? ใจกลางความคิดของกลุ่มอยู่ที่ไหน? จะติดตามผลอย่างไร?
เดินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคนิค “สอดส่องงาน” เพื่อสร้างความประทับใจแรกและประเมินบรรยากาศสังคมอย่างรวดเร็ว ใช้เทคนิค “เป็นผู้เลือก ไม่ใช่ผู้ถูกเลือก” เพื่อเข้าหาคนที่คุณต้องการพบอย่างมั่นใจ
- ฝึก “กินหรือคุย” เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง
- ใช้ “มือเชิญชวน” เพื่อดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย
- ใช้ “การขายด้วยสายตา” เพื่ออ่านและตอบสนองภาษากายอย่างละเอียด
9. ฝ่าฟันเพดานกระจกทางสังคม
ความบกพร่องทางสังคมเป็นสิ่งที่แอบแฝง เพราะเรามักไม่รู้ตัวในตัวเอง เราอาจตาบอดต่อข้อบกพร่องทางสังคมและหูหนวกต่อข้อบกพร่องทางวาจา แต่เรากลับรู้สึกได้อย่างรวดเร็วในผู้อื่น
พัฒนาความอ่อนไหวทางสังคม ฝึกเทคนิค “ไม่เห็นความผิดพลาด ไม่ได้ยินความผิดพลาด” เพื่อมองข้ามความผิดพลาดเล็กน้อยและความผิดพลาดทางสังคมของผู้อื่นอย่างมีมารยาท ใช้เทคนิค “ยืมลิ้นช่วยพูด” เพื่อช่วยเล่าเรื่องหรือบทสนทนาที่ถูกขัดจังหวะ
เชี่ยวชาญศิลปะของการขอความช่วยเหลือ เมื่อขอความช่วยเหลือ ให้โปร่งใสเกี่ยวกับแรงจูงใจและประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย ใช้เทคนิค “ปล่อยให้เขาได้ลิ้มรสความช่วยเหลือ” เพื่อเว้นระยะเวลาระหว่างการได้รับความช่วยเหลือและการลงมือทำ แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจและมองหาวิธีตอบแทนเสมอ
- ตระหนักถึงสัญญาณทางสังคมที่ละเอียดอ่อนและกฎที่ไม่ได้พูดออกมา
- ฝึกความเห็นอกเห็นใจและวางตัวในมุมมองของผู้อื่น
- พัฒนาการตระหนักรู้ในตนเองและปรับปรุงทักษะทางสังคมอย่างต่อเนื่อง
หนังสือเล่มนี้ซึ่งดัดแปลงจาก “How to Talk to Anyone” โดย Leil Lowndes นำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมของเทคนิคและกลยุทธ์สำคัญในการเป็นนักสื่อสารชั้นยอด ด้วยการเน้นที่ความประทับใจแรก ทักษะการสนทนา การพูดอย่างมีอำนาจ การเชื่อมต่อกับผู้อื่น การสร้างความสัมพันธ์ การให้และรับคำชม การสื่อสารทางโทรศัพท์ การควบคุมบรรยากาศงานสังคม และการฝ่าฟันความซับซ้อนทางสังคม ผู้อ่านจะสามารถพัฒนาความสามารถในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ จำไว้ว่าทักษะเหล่านี้ต้องการการฝึกฝนและความอดทน แต่ผลตอบแทนทั้งในชีวิตส่วนตัวและอาชีพนั้นคุ้มค่ากับความพยายามอย่างยิ่ง
อัปเดตล่าสุด:
FAQ
What's How to Talk to Anyone about?
- Communication Skills Focus: How to Talk to Anyone by Leil Lowndes is centered on enhancing communication skills for personal and professional success. It provides practical techniques to improve how you connect with others.
- Ninety-Two Techniques: The book offers 92 specific techniques that range from body language tips to conversation starters, all designed to help you engage and communicate effectively with anyone.
- Building Relationships: The ultimate aim is to help readers build better relationships, whether for networking, friendships, or romantic interests, by mastering the art of conversation.
Why should I read How to Talk to Anyone?
- Enhance Social Skills: If you struggle with social interactions or feel anxious in conversations, this book provides actionable strategies to improve your confidence and effectiveness in communication.
- Practical Techniques: Filled with practical advice that can be applied immediately in various social situations, it’s a valuable resource for anyone looking to enhance their interpersonal skills.
- Broaden Your Network: By learning how to engage with others more effectively, you can expand your personal and professional networks, leading to new opportunities and relationships.
What are the key takeaways of How to Talk to Anyone?
- First Impressions Matter: The book emphasizes that you only have ten seconds to make a positive impression, and your body language plays a crucial role in that.
- The Power of Smiles: Techniques like "The Flooding Smile" can make your interactions more genuine and engaging, helping you to connect with others on a deeper level.
- Active Listening: The importance of listening and responding appropriately is highlighted, with methods like "Parroting" to keep conversations flowing and engaging.
What are some specific techniques mentioned in How to Talk to Anyone?
- The Flooding Smile: This technique involves pausing before smiling to make your smile appear more genuine and personal, enhancing the connection with the other person.
- Sticky Eyes: This method encourages maintaining strong eye contact to create a sense of intimacy and respect during conversations, making the other person feel valued.
- The Big-Baby Pivot: When meeting someone new, this technique suggests turning your body fully towards them and giving them your undivided attention, making them feel special and important.
What are the best quotes from How to Talk to Anyone and what do they mean?
- "You only have ten seconds to show you're a somebody.": This quote underscores the importance of first impressions and how quickly people form judgments based on your appearance and body language.
- "People don't care how much you know until they know how much you care.": This emphasizes the need for genuine interest in others to build rapport and trust in relationships.
- "Call a spade a spade.": This quote encourages honesty and directness in communication, suggesting that using clear language fosters better understanding and connection.
How does How to Talk to Anyone address body language?
- Nonverbal Communication: The book highlights that over 80% of first impressions are based on body language rather than words, making it essential to be aware of your nonverbal cues.
- Posture and Presence: Techniques like "Hang by Your Teeth" encourage maintaining good posture to project confidence and approachability, which can significantly impact how others perceive you.
- Reading Others: The book teaches readers how to read body language cues from others, allowing for more effective and empathetic communication.
How can I improve my small talk skills using How to Talk to Anyone?
- Use Open-Ended Questions: The book suggests asking open-ended questions to encourage deeper conversations, allowing the other person to share more about themselves.
- Practice Active Listening: Focus on truly listening to what the other person is saying rather than thinking about your next response, showing genuine interest and building rapport.
- Be Mindful of Body Language: Pay attention to your body language and that of your conversation partner, as open and inviting body language can make small talk feel more comfortable and natural.
How does How to Talk to Anyone help with networking?
- Building Confidence: The techniques provided help readers feel more confident in social situations, making it easier to approach new people and engage in conversations.
- Creating Lasting Impressions: By mastering first impressions and small talk, readers can leave a positive impact on potential contacts, increasing the likelihood of future interactions.
- Effective Introductions: The book teaches how to introduce others in a way that fosters conversation, making networking events more productive and enjoyable.
How can I apply the techniques from How to Talk to Anyone in my daily life?
- Practice Regularly: Incorporate techniques like "The Big-Baby Pivot" and "The Flooding Smile" in everyday interactions to enhance your communication skills gradually.
- Be Observant: Use the "Hans's Horse Sense" technique to observe and respond to others' body language and verbal cues, allowing for more meaningful conversations.
- Prepare for Social Events: Before attending gatherings, familiarize yourself with current events or topics relevant to the attendees, ensuring you have engaging conversation starters ready.
What are some common mistakes to avoid according to How to Talk to Anyone?
- Using Clichés: The book advises against relying on clichés, as they can make you sound unoriginal and diminish your credibility in conversations.
- Neglecting the Other Person: Failing to show genuine interest in the other person can lead to disengagement; techniques like "Comm-YOU-nication" emphasize putting the other person first.
- Rushing to Share Similarities: The book cautions against quickly jumping in with "me too" responses, suggesting that allowing the other person to express themselves first can create a stronger connection.
How does How to Talk to Anyone address cultural differences in communication?
- Understanding Customs: The book advises readers to familiarize themselves with cultural customs and etiquette before interacting with people from different backgrounds to prevent misunderstandings.
- Adapting Communication Styles: It encourages adapting your communication style to fit the cultural context of the person you are speaking with, enhancing rapport and making interactions smoother.
- Avoiding Assumptions: The author stresses the importance of avoiding assumptions based on one's own cultural norms, promoting open-mindedness and curiosity about others' perspectives.
How can I apply the techniques from How to Talk to Anyone in a professional setting?
- Networking Events: Use the techniques to engage with new contacts at networking events, approaching individuals with confidence and using open body language.
- Client Interactions: Apply the principles of active listening and empathy when dealing with clients, showing genuine interest in their needs and concerns.
- Team Meetings: Implement the techniques during team meetings to foster collaboration and communication, encouraging participation by using inclusive language.
รีวิว
หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า How to Talk to Anyone ได้รับความคิดเห็นที่หลากหลายจากผู้อ่านบางส่วนมองว่าเป็นแหล่งรวมเคล็ดลับที่ใช้ได้จริงในการพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการทำงานและธุรกิจ ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิจารณ์ว่าหนังสือเล่มนี้เน้นไปที่เทคนิคที่ดูเหมือนจะชักจูงหรือควบคุมผู้อื่นมากเกินไป และมุ่งเน้นการสร้างความประทับใจแก่ผู้อื่นจนเกินความจำเป็น หลายคนชี้ให้เห็นว่าแม้คำแนะนำบางส่วนจะมีประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่คนทั่วไปพอจะรู้กันอยู่แล้ว หรือบางครั้งก็รู้สึกว่าเนื้อหาเก่าและล้าสมัย เรื่องราวและสไตล์การเขียนของหนังสือเล่มนี้จึงเป็นที่ถกเถียงกัน บางคนรู้สึกว่าน่าสนใจและดึงดูดใจ ขณะที่บางคนกลับรู้สึกรำคาญโดยไม่จำเป็น โดยรวมแล้ว ความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์และความจริงใจของหนังสือเล่มนี้จึงแตกต่างกันอย่างมากมาย
Similar Books








