ข้อสำคัญ
1. การมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะคือกุญแจสู่ความสงบภายในและความสมบูรณ์ของชีวิต
"ตระหนักอย่างลึกซึ้งว่าปัจจุบันขณะคือสิ่งเดียวที่คุณมีจริง ๆ"
ปัจจุบันขณะเป็นนิรันดร์ ปัจจุบันขณะคือเวลาที่มีอยู่จริงเพียงหนึ่งเดียว อดีตและอนาคตเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากจิตใจซึ่งมักทำให้เราหลงลืมที่จะสัมผัสชีวิตอย่างเต็มที่ เมื่อเรามุ่งความสนใจไปที่ปัจจุบันขณะ เราจะเข้าถึงมิติของสำนึกที่ไร้กาลเวลาและพร้อมให้เราใช้เสมอ
การมีอยู่ในปัจจุบันนำมาซึ่งความชัดเจน เมื่อเราอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ เราจะเข้าสู่สภาวะของการตื่นรู้และความสงบภายในที่สูงขึ้น สภาวะนี้ช่วยให้เรามองเห็นความจริงได้ชัดเจนขึ้น ตัดสินใจได้ดีขึ้น และตอบสนองต่อความท้าทายในชีวิตด้วยปัญญาและความสงบ ด้วยการฝึกฝนการมีอยู่ เราจะปลดปล่อยตัวเองจากภาระของความเสียใจในอดีตและความวิตกกังวลในอนาคต ทำให้เราสามารถมีส่วนร่วมและชื่นชมความงดงามของประสบการณ์ในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
2. จิตใจคือแหล่งกำเนิดของความทุกข์ ไม่ใช่สถานการณ์ภายนอก
"สาเหตุหลักของความทุกข์ไม่ใช่สถานการณ์ แต่คือความคิดของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์นั้น"
ความคิดสร้างความจริง จิตใจของเราสร้างความคิด การตัดสิน และการตีความเกี่ยวกับประสบการณ์อยู่เสมอ โครงสร้างทางจิตเหล่านี้มักนำไปสู่ความทุกข์เมื่อเราหลงเชื่อว่ามันคือความจริงแท้จริง ด้วยการตระหนักว่าความคิดไม่ใช่ข้อเท็จจริง เราจึงเริ่มแยกตัวออกจากความคิดและสังเกตอย่างเป็นกลางได้
ความสงบภายในคือทางเลือก สถานการณ์ภายนอกไม่ได้กำหนดสภาพจิตใจของเรา เมื่อเราย้ายความสนใจจากเนื้อหาของความคิดไปสู่การตระหนักรู้ในความคิด เราจะสามารถสร้างความสงบภายในได้โดยไม่ขึ้นกับสภาพแวดล้อมภายนอก การเปลี่ยนมุมมองนี้ช่วยให้เราตอบสนองต่อความท้าทายในชีวิตด้วยความยืดหยุ่นและความสงบ แทนที่จะถูกครอบงำโดยจิตใจที่ตอบสนองอย่างอัตโนมัติ
3. การสังเกตความคิดโดยไม่ตัดสินนำไปสู่ความนิ่งสงบภายใน
"การฟังความเงียบ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คือวิธีง่าย ๆ และตรงไปตรงมาที่สุดในการกลับสู่ปัจจุบัน"
สำนึกผู้สังเกต การพัฒนาความสามารถในการสังเกตความคิดโดยไม่เข้าไปพัวพันกับมัน ช่วยสร้างช่องว่างระหว่างการรับรู้กับเนื้อหาของจิตใจ การฝึกสังเกตอย่างมีสติแบบนี้ทำให้เราได้สัมผัสความสงบและความชัดเจนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
พลังของความเงียบ การสร้างความนิ่งสงบภายในผ่านการทำสมาธิหรือเพียงแค่หยุดฟังความเงียบรอบตัว ช่วยลดเสียงรบกวนในจิตใจ ในช่วงเวลาที่นิ่งสงบนี้ เราจะเข้าถึงมิติของสำนึกที่ลึกซึ้งซึ่งซ่อนอยู่ใต้ความคิดเสมอ
เทคนิคการสังเกตความคิด:
- สังเกตความคิดโดยไม่เข้าไปมีส่วนร่วม
- ติดป้ายความคิดว่า "กำลังคิด" โดยไม่ตัดสินเนื้อหา
- มุ่งความสนใจไปที่ช่องว่างระหว่างความคิด
- ใส่ใจความเงียบที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกิจกรรมทางจิตทั้งหมด
4. ความเจ็บปวดทางอารมณ์เกิดจากการต่อต้านปัจจุบันขณะ
"ความเจ็บปวดที่คุณสร้างขึ้นในตอนนี้คือรูปแบบหนึ่งของการไม่ยอมรับ หรือการต่อต้านที่ไม่รู้ตัวต่อสิ่งที่เป็นอยู่"
การต่อต้านสร้างความทุกข์ เมื่อเราต่อต้านหรือปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราจะสร้างความตึงเครียดและความเจ็บปวดทางอารมณ์ การต่อต้านนี้มักแสดงออกมาในรูปของอารมณ์ลบ เช่น ความโกรธ ความกลัว หรือความเศร้า ซึ่งเกิดจากความไม่เต็มใจที่จะยอมรับความจริงตามที่เป็น
การยอมรับเปลี่ยนความเจ็บปวด ด้วยการยอมรับปัจจุบันขณะอย่างเต็มที่ รวมถึงความไม่สบายใจหรืออารมณ์ที่ท้าทาย เราจะเริ่มละลายความทุกข์ที่เกิดจากการต่อต้าน นี่ไม่ได้หมายความว่าเรายอมรับหรือเห็นด้วยกับสถานการณ์ลบ แต่เป็นการยอมรับโดยไม่เพิ่มความขัดแย้งทางจิตใจและอารมณ์ที่ไม่จำเป็น
ขั้นตอนการฝึกยอมรับ:
- สังเกตการต่อต้านหรือการปฏิเสธในประสบการณ์ของคุณ
- ยอมรับปัจจุบันขณะโดยไม่ตัดสิน
- ปล่อยให้อารมณ์และความรู้สึกเป็นไปตามธรรมชาติ
- หายใจลึก ๆ และผ่อนคลายเข้าสู่ประสบการณ์นั้น
- ตอบสนองอย่างมีสติ แทนที่จะตอบสนองโดยอัตโนมัติ
5. การยอมรับ "สิ่งที่เป็น" ช่วยละลายความลบและเปลี่ยนแปลงสำนึก
"ไม่ว่าสิ่งใดที่ปัจจุบันขณะมีอยู่ จงยอมรับมันราวกับว่าคุณเป็นผู้เลือกมัน ทำงานร่วมกับมันเสมอ ไม่ใช่ต่อต้านมัน"
การยอมรับอย่างสุดขั้ว ด้วยการโอบรับปัจจุบันขณะอย่างเต็มที่ รวมถึงความไม่สมบูรณ์และความท้าทายทั้งหมด เราจะสอดคล้องกับกระแสแห่งชีวิต การสอดคล้องนี้ช่วยให้เราตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยความชัดเจนและประสิทธิภาพมากขึ้น แทนที่จะเสียพลังงานไปกับการต่อต้านความจริง
พลังการเปลี่ยนแปลงของการยอมรับ เมื่อเรายอมรับ "สิ่งที่เป็น" เราจะเปิดใจรับโอกาสและทางออกใหม่ ๆ ที่อาจถูกบดบังด้วยความต่อต้าน การยอมรับนี้ไม่ได้หมายถึงความเฉื่อยชา หรือการยอมจำนน แต่เป็นสภาวะของการเห็นอย่างชัดเจนที่ช่วยให้เราดำเนินการอย่างเหมาะสมจากจุดที่สงบและมีปัญญา
ประโยชน์ของการยอมรับ "สิ่งที่เป็น":
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล
- เพิ่มความชัดเจนและสมาธิทางจิตใจ
- เสริมสร้างความยืดหยุ่นทางอารมณ์
- พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา
- กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และสัญชาตญาณ
6. พลังของปัจจุบันขณะเหนือกาลเวลาและเชื่อมโยงเรากับแก่นแท้ของตัวเอง
"คุณคือท้องฟ้า ก้อนเมฆคือสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านไป และจากไป"
การเป็นนิรันดร์ ปัจจุบันขณะเป็นประตูสู่มิติของสำนึกที่อยู่นอกเหนือกาลเวลา ด้วยการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ เราจะได้สัมผัสความรู้สึกของความไร้กาลเวลาและการเชื่อมโยงกับแก่นแท้ของตัวเอง ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงและเป็นนิรันดร์
การตระหนักรู้ในตัวตนที่แท้จริง แก่นแท้ของเราลึกกว่าความคิด อารมณ์ และสถานการณ์ชีวิต ด้วยการนำความสนใจกลับสู่ปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ เราจะค่อย ๆ ตื่นรู้ถึงตัวตนที่ลึกซึ้งกว่าในฐานะสำนึกบริสุทธิ์ การตระหนักรู้นี้นำมาซึ่งความสงบ เสรีภาพ และความเชื่อมโยงลึกซึ้งกับชีวิตทั้งปวง
การฝึกเชื่อมโยงกับมิตินิรันดร์:
- มุ่งความสนใจไปที่ลมหายใจหรือความรู้สึกในร่างกาย
- ทำกิจกรรมอย่างมีสติ เช่น เดิน หรือกินอาหาร
- ใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติ โดยสังเกตโดยไม่ติดป้ายกำกับ
- ฝึกตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ฉันคือใครนอกเหนือจากความคิดและอารมณ์?"
- ปลูกฝังความรู้สึกทึ่งและเคารพในชีวิตประจำวัน
7. การมีอยู่ในชีวิตประจำวันช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม
"การรักคือการเห็นตัวเองในผู้อื่น"
การมีปฏิสัมพันธ์อย่างมีสติ ด้วยการนำความตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะเข้าสู่ความสัมพันธ์ เราจะสร้างความผูกพันและความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เมื่อเราอยู่กับผู้อื่นอย่างเต็มที่ เราจะฟังอย่างตั้งใจ สื่อสารอย่างจริงใจ และตอบสนองด้วยความเห็นอกเห็นใจและเมตตา
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การฝึกมีอยู่ในกิจกรรมประจำวันช่วยให้เรามีส่วนร่วมและชื่นชมความงดงามของประสบการณ์อย่างเต็มที่ ความตื่นรู้ที่เพิ่มขึ้นนี้นำไปสู่ความสุขในสิ่งเล็ก ๆ ความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้น และความรู้สึกเติมเต็มในทุกด้านของชีวิต
วิธีนำการมีอยู่มาใช้ในชีวิตประจำวัน:
- ฝึกฟังอย่างตั้งใจในบทสนทนา
- ทำงานประจำอย่างเต็มที่โดยไม่ทำหลายอย่างพร้อมกัน
- หยุดพักสั้น ๆ เพื่อมีสติระหว่างวัน
- ปลูกฝังความกตัญญูต่อช่วงเวลาและประสบการณ์ง่าย ๆ
- ใส่ใจร่างกายและลมหายใจขณะทำกิจกรรม
8. การยอมจำนนต่อปัจจุบันขณะเปิดประตูสู่การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ
"บางครั้งการยอมจำนนหมายถึงการเลิกพยายามเข้าใจและรู้สึกสบายใจกับความไม่รู้"
การปล่อยวางการควบคุม การยอมจำนนต่อปัจจุบันขณะคือการปล่อยวางความต้องการควบคุมหรือเข้าใจทุกสิ่ง ด้วยการยอมรับความไม่แน่นอนและโอบรับความลึกลับของชีวิต เราจะเปิดใจรับความเข้าใจลึกซึ้งและประสบการณ์เปลี่ยนแปลง
การตื่นรู้สู่ความจริง การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อเรายอมจำนนต่อสิ่งที่เป็นโดยไม่มีการต่อต้านหรือการตัดสิน การยอมจำนนนี้ช่วยให้เราเห็นความจริงอย่างชัดเจน ปราศจากการบิดเบือนของจิตใจที่ถูกฝึกฝน ในสภาวะของความเปิดกว้างและการรับรู้นี้ เราจะได้สัมผัสการเปลี่ยนแปลงลึกซึ้งในสำนึกและความรู้สึกเชื่อมโยงกับชีวิตทั้งปวง
องค์ประกอบของการยอมจำนน:
- ยอมรับความไม่แน่นอนและความไม่รู้
- ปล่อยวางความยึดติดกับผลลัพธ์
- เชื่อมั่นในกระแสแห่งชีวิต
- โอบรับความเปราะบางและความเปิดใจ
- ปล่อยวางความต้องการและความกลัวที่ขับเคลื่อนโดยอัตตา
9. การปล่อยวางการยึดติดกับอัตตานำมาซึ่งเสรีภาพและความแท้จริง
"การยึดติดกับอัตตาที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน งานที่ทำ สถานะทางสังคม การยอมรับ ความรู้และการศึกษา รูปลักษณ์ภายนอก ความสามารถพิเศษ ความสัมพันธ์ ประวัติส่วนตัวและครอบครัว ระบบความเชื่อ และบ่อยครั้งรวมถึงการยึดติดทางการเมือง ชาติพันธุ์ เชื้อชาติ ศาสนา และการยึดติดกลุ่มอื่น ๆ เหล่านี้ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ"
เหนือกว่าตัวตนปลอม อัตตาหรือความรู้สึกของตัวตนแยกจากกัน ถูกสร้างขึ้นจากความคิด ความทรงจำ และการยึดติดต่าง ๆ ด้วยการตระหนักว่าเราไม่ใช่โครงสร้างชั่วคราวเหล่านี้ เราจะเริ่มคลายพันธนาการจากความเชื่อจำกัดและรูปแบบพฤติกรรมที่ติดเป็นนิสัย
การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เมื่อเราปล่อยวางการยึดติดกับอัตตา เราจะมีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้ดี และแสดงความแท้จริงในความสัมพันธ์กับโลก เสรีภาพนี้ช่วยให้เราแสดงออกถึงธรรมชาติที่แท้จริงของตนเองอย่างเต็มที่ และตอบสนองต่อชีวิตด้วยความสดใหม่และสร้างสรรค์
ขั้นตอนการปล่อยวางการยึดติดกับอัตตา:
- สังเกตความคิดและความเชื่อโดยไม่ตัดสิน
- ตั้งคำถามกับความถูกต้องของแนวคิดเกี่ยวกับตัวตน
- ฝึกตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ฉันคือใครนอกเหนือจากบทบาทและอัตลักษณ์?"
- ปลูกฝังอารมณ์ขันต่อพฤติกรรมของอัตตา
- มุ่งเน้นที่การเป็น มากกว่าการบรรลุหรือครอบครอง
10. การฝึกสติช่วยปลูกฝังการตระหนักรู้ในความเป็นอยู่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
"การทำสมาธิไม่ใช่การไปยังที่อื่น แต่มันคือการอนุญาตให้ตัวเองอยู่ ณ ที่ที่คุณอยู่ และเป็นอย่างที่คุณเป็น และให้โลกเป็นอย่างที่มันเป็นในขณะนี้"
การปลูกฝังการมีอยู่ การฝึกสติ เช่น การทำสมาธิและการหายใจอย่างมีสติ ช่วยพัฒนาความสามารถในการอยู่กับปัจจุบันและตระหนักรู้ในชีวิตประจำวัน การฝึกเหล่านี้ฝึกสมาธิให้ยึดมั่นในปัจจุบัน แทนที่จะถูกดึงไปยังความเสียใจในอดีตหรือความกังวลในอนาคต
การลึกซึ้งในสำนึก การฝึกสติอย่างสม่ำเสมอสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงลึกซึ้งในความสัมพันธ์กับตัวเองและโลก เมื่อเราตื่นรู้ต่อปัจจุบันมากขึ้น เราอาจสัมผัสถึงความสงบ ความชัดเจน และความเชื่อมโยงกับแก่นแท้ของตัวเองในฐานะสำนึกบริสุทธิ์หรือความเป็นอยู่
การฝึกสติที่ควรลอง:
- การทำสมาธิด้วยการรับรู้ลมหายใจ
- การทำสมาธิสแกนร่างกาย
- การเดินหรือเคลื่อนไหวอย่างมีสติ
- การทำสมาธิเมตตา (loving-kindness)
- การสังเกตความคิดและอารมณ์โดยไม่ตัดสิน
- การกินหรือดื่มอย่างมีสติ
อัปเดตล่าสุด:
FAQ
What's "The Power of Now" about?
- Core Message: "The Power of Now" by Eckhart Tolle is a guide to spiritual enlightenment, emphasizing the importance of living in the present moment. It teaches that true peace and happiness can only be found by focusing on the Now, rather than being caught up in past regrets or future anxieties.
- Mindfulness and Presence: The book explores how being present and mindful can help individuals transcend their ego and connect with their true essence, which Tolle refers to as "Being."
- Spiritual Awakening: Tolle synthesizes teachings from various spiritual traditions, including Buddhism and Christianity, to present a universal path to enlightenment that is accessible to everyone.
Why should I read "The Power of Now"?
- Transformative Potential: The book has the potential to change your life by helping you break free from the dominance of your mind and ego, leading to a more peaceful and fulfilling existence.
- Practical Guidance: Tolle provides practical advice and exercises to help readers become more present and aware, making the teachings applicable to everyday life.
- Universal Appeal: The teachings are not tied to any specific religion, making them accessible to a wide audience seeking spiritual growth and inner peace.
What are the key takeaways of "The Power of Now"?
- Present Moment Awareness: The primary takeaway is the importance of living in the present moment, as it is the only time that truly exists and where life unfolds.
- Ego and Mind Identification: Tolle explains that identification with the mind and ego is the root cause of suffering, and liberation comes from disidentifying with them.
- Inner Peace and Enlightenment: By practicing presence and mindfulness, individuals can access a state of inner peace and enlightenment, transcending the dualities of good and bad.
How does Eckhart Tolle define "Being" in "The Power of Now"?
- Essence of Existence: "Being" is described as the eternal, ever-present life beyond the myriad forms of life that are subject to birth and death.
- Inner Reality: It is the innermost invisible and indestructible essence within every form, accessible through presence and mindfulness.
- Beyond Thought: Being cannot be grasped by the mind; it is felt when the mind is still and attention is fully in the Now.
What is the "pain-body" according to Eckhart Tolle?
- Accumulated Pain: The pain-body is an accumulation of past emotional pain that lives in the body and mind, often triggered by certain situations or thoughts.
- Negative Energy Field: It is described as a negative energy field that occupies the body and mind, feeding on pain and perpetuating suffering.
- Transmutation through Presence: Tolle advises that by becoming present and observing the pain-body without judgment, it can be transmuted into consciousness.
How can one practice presence as suggested in "The Power of Now"?
- Inner Body Awareness: Tolle suggests focusing attention on the inner energy field of the body to anchor oneself in the present moment.
- Mindful Breathing: Conscious breathing is a powerful meditation that helps redirect attention from the mind to the body, fostering presence.
- Observing Thoughts: By watching thoughts and emotions without judgment, one can disidentify from them and cultivate a state of presence.
What role does the ego play in "The Power of Now"?
- Source of Suffering: The ego is identified as the mind-made self that creates a false sense of identity, leading to fear, conflict, and suffering.
- Illusion of Separation: It perpetuates the illusion of separation from oneself and the world, causing individuals to live in a state of fear and desire.
- Transcending the Ego: Tolle teaches that by becoming present and disidentifying from the ego, one can access true peace and enlightenment.
What are the best quotes from "The Power of Now" and what do they mean?
- "You are here to enable the divine purpose of the universe to unfold. That is how important you are!" This quote emphasizes the significance of each individual's presence and their role in the greater scheme of life.
- "The present moment is all you ever have." It highlights the central theme of the book, which is the importance of living in the Now as the only reality.
- "Realize deeply that the present moment is all you ever have. Make the Now the primary focus of your life." This quote encourages readers to prioritize the present moment over past and future concerns.
How does "The Power of Now" address relationships?
- Enlightened Relationships: Tolle suggests that relationships can be a spiritual practice when both partners are present and conscious, allowing love to flourish.
- Ego and Pain-Body Dynamics: He explains how the ego and pain-body can create dysfunction in relationships, leading to cycles of love and hate.
- Transformative Potential: By practicing presence, individuals can transform their relationships from sources of pain to opportunities for spiritual growth.
What is the significance of surrender in "The Power of Now"?
- Inner Acceptance: Surrender is about accepting the present moment unconditionally, which dissolves resistance and connects one with Being.
- Not Passivity: It is not about passivity or giving up, but about yielding to the flow of life and taking action from a place of inner peace.
- Path to Peace: Surrender is a key practice for transcending the ego and accessing the peace and joy of the present moment.
How does Eckhart Tolle suggest dealing with negative emotions?
- Awareness and Observation: Tolle advises observing negative emotions without judgment, which allows them to dissolve in the light of consciousness.
- Non-Resistance: By not resisting negative emotions, one can prevent them from turning into suffering and instead use them as a signal to become more present.
- Transmutation: Through presence and acceptance, negative emotions can be transmuted into peace and consciousness.
What impact has "The Power of Now" had on readers and the spiritual community?
- Life-Changing Effects: Many readers report profound life changes and a reduction in suffering after applying the book's teachings.
- Global Reach: The book has reached millions worldwide and is available in multiple languages, influencing diverse spiritual communities.
- Catalyst for Awakening: It is seen as a catalyst for a shift in consciousness, encouraging individuals to awaken to their true nature and live more fulfilling lives.
รีวิว
พลังแห่งปัจจุบัน โดย เอคฮาร์ต โทลล์ ได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลาย บางคนมองว่าเป็นหนังสือที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริง โดยชื่นชมการเน้นย้ำถึงการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันและการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ พวกเขาชื่นชอบมุมมองของโทลล์เกี่ยวกับการมีสติและการปล่อยวางความกังวลในอดีตและอนาคต อย่างไรก็ตาม บางเสียงวิจารณ์มองว่าหนังสือเล่มนี้ซ้ำซาก คลุมเครือ และเต็มไปด้วยคำศัพท์ทางจิตวิญญาณที่ดูเหมือนจะไม่มีสาระ บางคนรู้สึกว่าโทลล์ใช้ถ้อยคำที่ดูหยิ่งยโส และแนวคิดของเขายากต่อการนำไปใช้ในชีวิตจริง แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ผู้อ่านจำนวนมากยังคงเห็นคุณค่าของสาระสำคัญเกี่ยวกับการมีอยู่ในปัจจุบันและการตระหนักรู้ในตนเองที่หนังสือเล่มนี้นำเสนอไว้ได้อย่างดีเยี่ยม