ข้อสำคัญ
1. วินัยคือรากฐานของความสำเร็จและอิสรภาพ
วินัย: ต้นกำเนิดของคุณสมบัติที่ดีงามทั้งปวง
วินัยขับเคลื่อนความสำเร็จ มันคือหลักการสำคัญที่ช่วยให้เราฝ่าฟันความขี้เกียจ ความเฉื่อยชา และข้ออ้างต่าง ๆ วินัยชนะข้ออ้างที่ไม่มีที่สิ้นสุดอย่าง “ไม่ใช่วันนี้ ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันต้องพักก่อน เดี๋ยวทำพรุ่งนี้” มันคือพลังที่ผลักดันให้คุณตื่นเช้า ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และตัดสินใจทำสิ่งที่ยากแต่สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ
อิสรภาพผ่านวินัย อาจฟังดูขัดแย้ง แต่วินัยนำไปสู่อิสรภาพที่แท้จริง ด้วยการควบคุมตนเองและความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมาย คุณจะปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการของความขี้เกียจ การผัดวันประกันพรุ่ง และความธรรมดา อิสรภาพนี้ช่วยให้คุณใช้ศักยภาพเต็มที่และใช้ชีวิตตามที่ใจปรารถนา
วินัยในทุกด้านของชีวิต นำวินัยไปใช้กับทุกมิติของชีวิต เช่น
- สุขภาพร่างกายและโภชนาการ
- การควบคุมอารมณ์และการตัดสินใจ
- จรรยาบรรณในการทำงานและประสิทธิภาพ
- ความสัมพันธ์ส่วนตัวและการสื่อสาร
- การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
2. เอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งด้วยการเริ่มต้นทันที
ความจริงก็คือ: ไอเดียนั้นจะไม่ทำงานเองหรอก
ลงมือทำทันที วิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งคือเริ่มต้นตอนนี้เลย อย่ารอเวลาที่สมบูรณ์แบบหรือเงื่อนไขที่ดีกว่า ยิ่งคุณเลื่อนออกไปนานเท่าไร การเริ่มต้นก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น การลงมือทำทันทีช่วยสร้างแรงผลักดันและเอาชนะแรงต้านเริ่มแรก
เริ่มจากเล็ก ๆ แต่เริ่มตอนนี้ แบ่งเป้าหมายของคุณออกเป็นงานเล็ก ๆ ที่จัดการได้ทีละขั้นตอน โฟกัสที่การทำให้เสร็จทีละก้าว วิธีนี้ช่วยให้โครงการใหญ่ดูไม่หนักเกินไปและช่วยให้คุณก้าวหน้าอย่างมั่นคง จำไว้ว่า
- ทุกการเดินทางเริ่มต้นด้วยก้าวแรก
- การกระทำเล็ก ๆ สะสมเป็นผลลัพธ์ใหญ่
- ความสม่ำเสมอคือกุญแจสู่ความสำเร็จระยะยาว
กำจัดข้ออ้าง เข้าใจว่าการผัดวันประกันพรุ่งมักเกิดจากความกลัว ความสมบูรณ์แบบ หรือความไม่ชัดเจน แก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยการ
- ยอมรับความกลัวและฝ่าฟันมัน
- รับรู้ว่าการลงมือทำแม้ไม่สมบูรณ์ดีกว่าไม่ทำเลย
- กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและแบ่งเป็นขั้นตอนที่ทำได้จริง
3. ควบคุมจิตใจเพื่อควบคุมชีวิต
คุณมีอำนาจเหนือจิตใจของคุณ เพียงแค่ต้องประกาศใช้มัน
การควบคุมจิตใจคือการควบคุมตนเอง ความคิดและความเชื่อของคุณสร้างความเป็นจริงของคุณ เมื่อคุณควบคุมจิตใจได้ คุณจะมีพลังในการกำหนดการกระทำและชีวิตของคุณ ซึ่งหมายถึงการเลือกความคิด อารมณ์ และปฏิกิริยาต่อสถานการณ์ภายนอกอย่างมีสติ
เอาชนะอุปสรรคทางจิตใจ เข้าใจว่าข้อจำกัดหลายอย่างเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง เมื่อเผชิญกับความคิดลบหรือความสงสัยในตัวเอง ให้ท้าทายและเปลี่ยนมุมมองใหม่แทนที่ความเชื่อจำกัดด้วยความเชื่อที่เสริมสร้างเป้าหมายและความปรารถนาของคุณ เทคนิคการควบคุมจิตใจได้แก่
- การพูดกับตนเองในทางบวกและคำยืนยัน
- การจินตนาการถึงความสำเร็จ
- การฝึกสติและสมาธิ
- การปรับโครงสร้างความคิด
สร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจ พัฒนาความสามารถในการอดทนต่อความยากลำบากและรักษาโฟกัสกับเป้าหมาย ซึ่งรวมถึง
- การตั้งเป้าหมายชัดเจนและมุ่งมั่นทำตาม
- การยอมรับความไม่สบายและมองความท้าทายเป็นโอกาสเติบโต
- การฝึกวินัยในนิสัยและกิจวัตรประจำวัน
- การขยายขอบเขตความสบายของตนเองอย่างต่อเนื่อง
4. ยอมรับความไม่สบายและผลักดันขีดจำกัดของตัวเอง
ความอ่อนแอไม่มีสิทธิ์ออกเสียง
การเติบโตต้องแลกด้วยความไม่สบาย ความสบายคือศัตรูของความก้าวหน้า หากต้องการบรรลุเป้าหมายและใช้ศักยภาพเต็มที่ คุณต้องกล้าที่จะก้าวออกจากเขตสบายและเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างตรงไปตรงมา ยอมรับความไม่สบายที่เกิดจากการผลักดันขีดจำกัด เพราะนั่นคือสัญญาณของการเติบโตและพัฒนา
ท้าทายตัวเองทุกวัน มองหาโอกาสที่จะทดสอบขีดจำกัดและขยายความสามารถของคุณ เช่น
- ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถ
- ลองประสบการณ์ใหม่และเรียนรู้ทักษะใหม่
- ทำกิจกรรมที่ต้องใช้ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วง
- เผชิญหน้ากับความกลัวและความไม่มั่นใจ
พัฒนาความแข็งแกร่งทางจิตใจ ฝึกจิตใจให้ทนต่อความไม่สบายและอุปสรรค ความแข็งแกร่งนี้จะช่วยคุณในทุกด้านของชีวิต ช่วยให้คุณเอาชนะอุปสรรคและยืนหยัดแม้เผชิญความล้มเหลว กลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งได้แก่
- ฝึกสติและควบคุมอารมณ์
- การเผชิญหน้ากับความกลัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ทบทวนความท้าทายที่เคยผ่านพ้นมา
- ปลูกฝังทัศนคติเติบโตที่มองความล้มเหลวเป็นโอกาสเรียนรู้
5. เปลี่ยนความเครียดและความล้มเหลวเป็นโอกาสเติบโต
ความเครียดมีทั้งดีและร้าย
มองความเครียดในแง่บวก แม้ว่าความเครียดมากเกินไปจะเป็นอันตราย แต่ความเครียดในระดับปานกลางกลับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและกระตุ้นการเติบโตส่วนบุคคลได้ เรียนรู้ที่จะมองความเครียดเป็นความท้าทาย ไม่ใช่ภัยคุกคาม การเปลี่ยนมุมมองนี้ช่วยให้คุณ
- เพิ่มสมาธิและแรงจูงใจ
- พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา
- สร้างความยืดหยุ่นและความสามารถปรับตัว
เรียนรู้จากความล้มเหลว ความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของความพยายามที่มีคุณค่า แทนที่จะกลัวหรือท้อแท้กับความล้มเหลว ให้ยอมรับมันเป็นบทเรียนที่มีค่า นำบทเรียนจากความล้มเหลวมาปรับปรุงวิธีการและกลยุทธ์ของคุณ การเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่สำคัญคือ
- มองความล้มเหลวเป็นข้อมูลป้อนกลับ ไม่ใช่คำตัดสินสุดท้าย
- วิเคราะห์ความล้มเหลวอย่างมีเหตุผลเพื่อหาจุดที่ต้องปรับปรุง
- ชื่นชมความพยายามและความกล้าที่จะลอง แม้ผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามคาด
ใช้ความยากลำบากเป็นเชื้อเพลิง เมื่อเผชิญกับอุปสรรคหรือความท้าทาย ให้เปลี่ยนความหงุดหงิดและความผิดหวังเป็นพลังในการลงมือทำ ปล่อยให้ประสบการณ์เหล่านี้กระตุ้นให้คุณทำงานหนักขึ้น คิดสร้างสรรค์มากขึ้น และพิสูจน์ให้ผู้ที่ไม่เชื่อเห็นว่า คุณทำได้ จำไว้ว่า
- ความยากลำบากมักเผยให้เห็นพลังและความสามารถที่ซ่อนอยู่
- การเอาชนะอุปสรรคสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตนเอง
- ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มักตามมาหลังช่วงเวลาที่ลำบากอย่างหนัก
6. รักษาโฟกัสที่ไม่หวั่นไหวต่อเป้าหมายระยะยาว
ฝังเป้าหมายระยะยาวนั้นไว้ในใจ ให้มันลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณ
ความชัดเจนของจุดมุ่งหมาย กำหนดเป้าหมายระยะยาวอย่างชัดเจนและเก็บไว้ในใจเสมอ ความชัดเจนนี้จะนำทางการตัดสินใจและการกระทำในแต่ละวัน ช่วยให้คุณไม่หลงทางแม้เผชิญกับสิ่งรบกวนหรือสิ่งล่อตาล่อใจในระยะสั้น เทคนิคการรักษาโฟกัสได้แก่
- เขียนเป้าหมายลงกระดาษและทบทวนทุกวัน
- สร้างบอร์ดวิสัยทัศน์เพื่อเห็นภาพผลลัพธ์ที่ต้องการ
- แชร์เป้าหมายกับเพื่อนหรือที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้เพื่อสร้างความรับผิดชอบ
สอดคล้องการกระทำรายวันกับเป้าหมายระยะยาว แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นขั้นตอนเล็ก ๆ ที่ทำได้จริง และมั่นใจว่ากิจกรรมในแต่ละวันช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ระยะยาว การสอดคล้องนี้สร้างความรู้สึกมีจุดหมายและความก้าวหน้าในชีวิตประจำวัน กลยุทธ์สำคัญได้แก่
- ตั้งเป้าหมายย่อยรายสัปดาห์และรายเดือน
- จัดลำดับความสำคัญของงานตามผลกระทบต่อเป้าหมายระยะยาว
- ประเมินและปรับวิธีการอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เดินทางถูกทาง
เอาชนะสิ่งรบกวนระยะสั้น เข้าใจว่าความพึงพอใจทันทีและความสุขระยะสั้นอาจทำให้คุณหลุดจากเส้นทาง พัฒนาวินัยในการชะลอความพึงพอใจและเลือกสิ่งที่สนับสนุนความสำเร็จระยะยาว ซึ่งรวมถึง
- ฝึกควบคุมตนเองในการตัดสินใจประจำวัน
- ปลูกฝังความอดทนและความพากเพียร
- เตือนตัวเองถึงภาพรวมใหญ่เมื่อเผชิญกับสิ่งล่อตาล่อใจ
7. ให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกายและโภชนาการที่เหมาะสม
การฝึกฝนร่างกาย: ลงมือทำอย่างจริงจัง
สุขภาพคือพื้นฐานสำคัญ สุขภาพร่างกายไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์ แต่เป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแรงสำหรับทุกด้านของชีวิต การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วย
- ส่งเสริมสุขภาพและยืดอายุขัย
- เพิ่มความชัดเจนทางจิตและสมรรถภาพทางสมอง
- ดูแลอารมณ์และจัดการความเครียด
- สร้างวินัยและความมั่นใจในตนเอง
ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง สร้างกิจวัตรการออกกำลังกายที่หลากหลาย เช่น
- การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อสุขภาพหัวใจและความทนทาน
- การฝึกความแข็งแรงเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและความหนาแน่นของกระดูก
- การฝึกความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
- การฝึกแบบอินเทอร์วัลความเข้มข้นสูงเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ
โภชนาการคือเชื้อเพลิง มองอาหารเป็นพลังงานสำหรับร่างกายและจิตใจ ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสนับสนุนเป้าหมายสุขภาพ หลักโภชนาการที่สำคัญได้แก่
- เน้นโปรตีน ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
- ลดอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันไม่ดี
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- พิจารณาการอดอาหารเป็นช่วงเพื่อประโยชน์ต่อระบบเผาผลาญ
8. พัฒนาจิตใจนักรบผ่านการฝึกศิลปะการต่อสู้
ทุกคนควรฝึกศิลปะการต่อสู้ เช่นเดียวกับทุกคนควรกินอาหาร
ประโยชน์ของศิลปะการต่อสู้ การฝึกศิลปะการต่อสู้ช่วยพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น
- เพิ่มสมรรถภาพทางกายและการรับรู้ร่างกาย
- เสริมทักษะการป้องกันตัวและความมั่นใจ
- พัฒนาวินัยและสมาธิ
- บรรเทาความเครียดและควบคุมอารมณ์
เลือกศิลปะการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นศิลปะการต่อสู้ที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้จริงในสถานการณ์จริง เช่น
- บราซิลเลียนยิวยิตสู สำหรับการต่อสู้บนพื้นและการล็อก
- มวยสากล สำหรับการชกและการเคลื่อนไหวเท้า
- มวยปล้ำ สำหรับการล้มและควบคุมคู่ต่อสู้
- มวยไทย สำหรับการจับล็อกและการโจมตีที่รุนแรง
นำหลักการศิลปะการต่อสู้ไปใช้ในชีวิต บทเรียนจากการฝึกศิลปะการต่อสู้เกินกว่าพื้นที่ฝึกซ้อมหรือเวที
- ยอมรับความไม่สบายและฝ่าฟันความท้าทาย
- รักษาความสงบในสถานการณ์กดดัน
- เคารพตนเองและผู้อื่น
- พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องและปรับตัวตามสถานการณ์ใหม่
9. ฝึกวินัยในนิสัยการนอนและกิจวัตรประจำวัน
วินัยเริ่มต้นด้วยการตื่นเช้า จริง ๆ นะ
ประโยชน์ของการตื่นเช้า การตื่นเช้าช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับวันใหม่และมอบข้อดีมากมาย เช่น
- เวลาสงบสำหรับทำงานหรือพัฒนาตนเอง
- โอกาสออกกำลังกายก่อนภารกิจประจำวัน
- ลดความเครียดจากการเร่งรีบในตอนเช้า
- ความรู้สึกสำเร็จตั้งแต่เริ่มวัน
รักษาตารางการนอนที่สม่ำเสมอ แม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อปรับจังหวะชีวภาพและสุขภาพโดยรวม
- นอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน
- สร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ผ่อนคลาย
- ลดการใช้หน้าจอและแสงสีฟ้าก่อนนอน
- สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอน (มืด เงียบ เย็น)
กิจวัตรตอนเช้าที่มีประสิทธิภาพ สร้างกิจวัตรเช้าที่ช่วยให้คุณพร้อมสำหรับความสำเร็จ
- ดื่มน้ำทันทีหลังตื่น
- ออกกำลังกายเบาหรือยืดเหยียด
- ฝึกสติหรือสมาธิ
- ทบทวนเป้าหมายและวางแผนวัน
- เริ่มต้นด้วยงานสำคัญที่สุดก่อน
10. เติมพลังให้ร่างกายด้วยโภชนาการที่เหมาะสมและพิจารณาการอดอาหารเป็นช่วง
ข่าวด่วน: คุณไม่จำเป็นต้องกินเสมอไป
กินเพื่อประสิทธิภาพ เลือกอาหารที่สนับสนุนสมรรถภาพทางกายและ
อัปเดตล่าสุด:
FAQ
What's "Discipline Equals Freedom: Field Manual" about?
- Core Message: The book by Jocko Willink emphasizes the importance of discipline as the foundation for achieving freedom in life. It argues that discipline is the key to overcoming obstacles and reaching personal goals.
- Structure: The book is divided into two main parts: "Thoughts" and "Actions," which provide philosophical insights and practical advice, respectively.
- Target Audience: It is aimed at individuals seeking motivation and guidance to improve their personal and professional lives through self-discipline.
- Author's Background: Jocko Willink, a former Navy SEAL, draws on his military experience to offer strategies for developing discipline and resilience.
Why should I read "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Practical Advice: The book offers actionable strategies for cultivating discipline in various aspects of life, from physical fitness to mental resilience.
- Motivational Insights: Jocko Willink's personal anecdotes and military experiences provide powerful motivation to push through challenges.
- Universal Application: The principles of discipline discussed are applicable to anyone, regardless of their profession or personal goals.
- Empowerment: Reading the book can empower you to take control of your life and make meaningful changes through disciplined action.
What are the key takeaways of "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Discipline Over Motivation: The book emphasizes that discipline is more reliable than motivation, which can be fleeting.
- Self-Discipline Origin: Discipline must come from within; external sources of discipline are not sustainable.
- Action-Oriented: The book encourages immediate action—starting "here and now"—to overcome procrastination and achieve goals.
- Mind Control: It stresses the importance of controlling your mind and emotions to maintain focus and drive.
How does Jocko Willink define discipline in "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Root of Qualities: Discipline is described as the root of all good qualities, driving daily execution and overcoming laziness.
- Internal Force: It is an internal force that must be cultivated from within, not imposed externally.
- Path to Freedom: Discipline is portrayed as the only path to achieving true freedom, allowing individuals to reach their full potential.
- Relentless Commitment: The book advocates for a relentless commitment to discipline, which leads to strength, intelligence, and health.
What is "The Way of Discipline" according to Jocko Willink?
- No Shortcuts: The book asserts that there are no shortcuts or hacks to achieving success; only hard work and discipline will get you there.
- Daily Practice: Discipline involves daily practice, including late nights, early mornings, and consistent effort.
- Overcoming Excuses: It is about defeating excuses and lethargy that prevent progress and personal growth.
- Ultimate Freedom: Following the way of discipline leads to ultimate freedom, allowing you to become the best version of yourself.
How does Jocko Willink suggest overcoming procrastination in "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Immediate Action: The book advises starting immediately—"here and now"—to overcome procrastination.
- Initiate Action: It emphasizes the importance of initiating action rather than overthinking or planning excessively.
- Consistent Effort: Consistent effort and taking the first step are crucial to making progress and achieving goals.
- Avoid Over-Researching: Willink warns against getting stuck in the cycle of researching and debating instead of doing.
What does Jocko Willink mean by "Mind Control" in "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Self-Control: Mind control refers to controlling your own mind, not others, by asserting your will over your thoughts and emotions.
- Decisive Action: It involves making decisive actions, such as waking up early or working out consistently, despite feelings of laziness or weakness.
- Emotional Regulation: The book suggests controlling emotions like sadness or frustration by not giving them a vote in your decisions.
- Positive Mindset: Imposing discipline, power, and positivity on your mind helps steer your life in the desired direction.
What are the "Bad Instincts" Jocko Willink warns about in "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Instinct to Rest: Willink warns against the instinct that tells you to rest or take it easy, as it can lead to complacency.
- Ego Defense: This instinct acts as a defense mechanism for your ego, providing excuses for not pushing harder.
- Lies and Deception: It deceives you into believing you've done enough, which can lead to failure and stagnation.
- Fight Instincts: The book advises fighting these instincts with logic and determination to continue striving for improvement.
How does Jocko Willink address stress in "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Perspective: Willink suggests gaining perspective by comparing your stress to historical or extreme situations faced by others.
- Detachment: Detaching from stressors and focusing on what you can control is crucial for managing stress.
- Embrace Stress: Instead of fighting stress, embrace it and use it to become sharper and more alert.
- Problem Solving: If stress is within your control, take ownership and solve the problem to relieve it.
What is "The Warpath" in "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Path of Preparation: The Warpath is a metaphorical path of preparation, discipline, and overcoming personal weaknesses.
- Leads to Strength: It leads to strength, knowledge, and understanding by confronting challenges head-on.
- Ownership of Life: Following The Warpath means taking control and ownership of your life through discipline.
- Path to Peace: Ultimately, The Warpath leads to peace by achieving freedom through disciplined action.
What are the best quotes from "Discipline Equals Freedom: Field Manual" and what do they mean?
- "Discipline Equals Freedom": This quote encapsulates the book's core message that discipline is the key to achieving freedom in life.
- "There is no easy way": It emphasizes that success requires hard work and there are no shortcuts.
- "Get up and go": A call to action, urging readers to take immediate steps toward their goals.
- "Control your mind": Highlights the importance of self-discipline and mental control in achieving personal success.
How does Jocko Willink suggest dealing with negative people in "Discipline Equals Freedom: Field Manual"?
- Ignore and Outperform: Willink advises ignoring negative talk and focusing on outperforming those who doubt you.
- Professional Engagement: If necessary, engage professionally to address serious allegations or issues.
- Focus on Self-Improvement: Concentrate on what you can do right and continue working hard.
- Winning Attitude: By maintaining a winning attitude and work ethic, you will ultimately succeed and silence negativity.
รีวิว
หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า Discipline Equals Freedom ได้รับเสียงวิจารณ์ที่หลากหลาย บางคนมองว่าเป็นแรงบันดาลใจชั้นดี และชื่นชมวิธีการที่ตรงไปตรงมาในการสร้างวินัยให้กับตัวเอง คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย โภชนาการ และความแข็งแกร่งทางจิตใจที่นำเสนอในหนังสือเล่มนี้ สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านบางกลุ่มได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจารณ์บางส่วนมองว่าหนังสือขาดความลึกซึ้ง เน้นแต่คำพูดซ้ำ ๆ และวิธีแก้ปัญหาที่ดูง่ายเกินไป สไตล์การเขียนที่ใช้ประโยคสั้น ๆ และตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด ก็เป็นจุดที่ทำให้ผู้อ่านบางคนรู้สึกชอบ ในขณะที่อีกหลายคนมองว่าเป็นการใช้เทคนิคที่ดูเกินจริง ผลลัพธ์ของหนังสือเล่มนี้จึงขึ้นอยู่กับรสนิยมและความคาดหวังของแต่ละบุคคลที่มีต่อหนังสือแนวช่วยเหลือตัวเองอย่างแท้จริง
Similar Books







