Searching...
ไทย
EnglishEnglish
EspañolSpanish
简体中文Chinese
FrançaisFrench
DeutschGerman
日本語Japanese
PortuguêsPortuguese
ItalianoItalian
한국어Korean
РусскийRussian
NederlandsDutch
العربيةArabic
PolskiPolish
हिन्दीHindi
Tiếng ViệtVietnamese
SvenskaSwedish
ΕλληνικάGreek
TürkçeTurkish
ไทยThai
ČeštinaCzech
RomânăRomanian
MagyarHungarian
УкраїнськаUkrainian
Bahasa IndonesiaIndonesian
DanskDanish
SuomiFinnish
БългарскиBulgarian
עבריתHebrew
NorskNorwegian
HrvatskiCroatian
CatalàCatalan
SlovenčinaSlovak
LietuviųLithuanian
SlovenščinaSlovenian
СрпскиSerbian
EestiEstonian
LatviešuLatvian
فارسیPersian
മലയാളംMalayalam
தமிழ்Tamil
اردوUrdu
Rich Dad, Poor Dad

Rich Dad, Poor Dad

โดย Robert T. Kiyosaki 1997 195 หน้า
4.10
684.9K คะแนน
ฟัง
Try Full Access for 7 Days
Unlock listening & more!
Continue

ข้อสำคัญ

1. กระแสเงินสดคือกุญแจสู่ความสำเร็จทางการเงิน ไม่ใช่แค่สินทรัพย์สุทธิ

"คนรวยให้ความสำคัญกับกระแสเงินสด ขณะที่คนจนและชนชั้นกลางมักสนใจแค่รายได้ในงบกำไรขาดทุน"

กระแสเงินสดคือราชา หลายคนมักจดจ่อกับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิหรือเงินเดือน แต่คนที่มั่งคั่งจริง ๆ เข้าใจดีว่ากระแสเงินสดที่เป็นบวกอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นที่นำไปสู่เสรีภาพทางการเงิน กระแสเงินสดหมายถึงเงินที่ไหลเข้าจากสินทรัพย์ของคุณหักลบกับค่าใช้จ่ายและหนี้สิน เป็นรายได้ที่มั่นคงซึ่งช่วยให้คุณรักษาระดับชีวิตโดยไม่ต้องทำงาน

จงให้ความสำคัญกับกระแสเงินสด ไม่ใช่แค่สินทรัพย์สุทธิ แม้ว่าสินทรัพย์สุทธิสูงจะดูน่าประทับใจบนกระดาษ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีความมั่นคงหรือเสรีภาพทางการเงิน หากสินทรัพย์เหล่านั้นไม่สร้างรายได้เป็นประจำ เช่น คนที่มีบ้านมูลค่าล้านดอลลาร์แต่ไม่มีสินทรัพย์อื่น อาจเรียกได้ว่า “รวยบ้านแต่จนเงินสด” ในทางกลับกัน คนที่มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช้าหลายแห่งและมีรายได้ประจำเดือน จะมีฐานกระแสเงินสดที่ยั่งยืนและมั่นคงทางการเงิน

2. สินทรัพย์ใส่เงินเข้ากระเป๋า หนี้สินดึงเงินออกจากกระเป๋า

"สินทรัพย์คือสิ่งที่ใส่เงินเข้ากระเป๋าฉัน หนี้สินคือสิ่งที่ดึงเงินออกจากกระเป๋าฉัน"

เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสินทรัพย์และหนี้สิน คำจำกัดความง่าย ๆ นี้ตัดผ่านศัพท์บัญชีที่ซับซ้อนเพื่อเน้นสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ว่าสิ่งใดสร้างรายได้หรือทำให้คุณเสียเงิน สินทรัพย์ที่แท้จริงได้แก่

  • ธุรกิจที่ไม่ต้องการให้คุณอยู่ดูแลตลอดเวลา
  • หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม
  • อสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้
  • ตั๋วสัญญาใช้เงิน (IOUs)
  • ค่าลิขสิทธิ์จากทรัพย์สินทางปัญญา
  • สิ่งอื่นใดที่มีมูลค่า สร้างรายได้ หรือมีแนวโน้มเพิ่มมูลค่า

หลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดทั่วไป หลายคนมักคิดว่ารถยนต์ บ้าน หรือเครื่องประดับเป็นสินทรัพย์ แต่สิ่งเหล่านี้มักมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เช่น ค่าบำรุงรักษา ภาษี ฯลฯ โดยไม่ได้สร้างรายได้ จึงถือเป็นหนี้สินตามนิยามนี้ การมุ่งเน้นไปที่การได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่แท้จริงจะช่วยวางรากฐานสู่ความมั่งคั่งในระยะยาว

3. สะสมสินทรัพย์ที่สร้างรายได้แบบพาสซีฟ

"กุญแจสู่เสรีภาพทางการเงินและความมั่งคั่งคือความสามารถในการเปลี่ยนรายได้ที่ได้มาด้วยแรงงานเป็นรายได้แบบพาสซีฟหรือรายได้จากพอร์ตโฟลิโอ"

รายได้แบบพาสซีฟคือเป้าหมายสูงสุด รายได้แบบพาสซีฟคือเงินที่ได้มาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง มักมาจากการลงทุนหรือธุรกิจที่ไม่ต้องมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน รายได้ประเภทนี้ช่วยให้คุณมีเงินเข้ามาแม้ในขณะที่คุณหลับ ช่วยให้คุณมีเวลาว่างและความมั่นคงทางการเงิน

สร้างพอร์ตโฟลิโอของสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ ตัวอย่างเช่น

  • อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า
  • หุ้นที่จ่ายเงินปันผล
  • พันธบัตร
  • ค่าลิขสิทธิ์จากหนังสือ เพลง หรือสิทธิบัตร
  • ธุรกิจที่มีระบบจัดการ
  • การให้กู้ยืมแบบเพียร์ทูเพียร์

โดยการสะสมรายได้เหล่านี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป คุณจะลดการพึ่งพางานประจำและในที่สุดก็สามารถบรรลุเสรีภาพทางการเงินได้ เป้าหมายคือให้รายได้แบบพาสซีฟของคุณมากกว่าค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต เพื่อให้คุณรักษาระดับชีวิตโดยไม่ต้องทำงาน

4. บ้านของคุณไม่ใช่สินทรัพย์ แต่เป็นหนี้สิน

"ผมไม่ได้บอกว่าอย่าซื้อบ้าน แต่ผมอยากให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์กับหนี้สิน"

คิดใหม่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของบ้าน แนวคิดนี้อาจขัดแย้งกับความเชื่อทั่วไปที่ว่าบ้านคือการลงทุนที่ดีที่สุดของคนเรา แม้ว่าบ้านจะมีแนวโน้มเพิ่มมูลค่า แต่โดยทั่วไปแล้วไม่สร้างรายได้และมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เช่น ค่างวดภาษีประกันภัย และค่าบำรุงรักษา

พิจารณาค่าเสียโอกาส เงินที่ผูกติดอยู่ในมูลค่าบ้านอาจสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าหากนำไปลงทุนในที่อื่น นอกจากนี้ การเป็นเจ้าของบ้านอาจจำกัดความคล่องตัวและโอกาสในการทำงาน แทนที่จะมองบ้านเป็นการลงทุน ให้มองว่าเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวเพื่อที่อยู่อาศัยและความสะดวกสบาย หากคุณซื้อบ้าน

  • ตั้งเป้าชำระหนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อลดดอกเบี้ย
  • พิจารณาให้เช่าห้องหรือส่วนหนึ่งของบ้านเพื่อสร้างรายได้
  • ระมัดระวังการใช้มูลค่าหุ้นในบ้านไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

จำไว้ว่าเป้าหมายคือการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ ไม่ใช่ผูกมัดเงินของคุณไว้กับหนี้สินที่ไม่สร้างรายได้ แม้จะสะดวกสบายหรือเป็นเรื่องปกติทางวัฒนธรรมก็ตาม

5. การศึกษาเรื่องการเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างความมั่งคั่ง

"ความฉลาดแก้ปัญหาและสร้างเงินได้ เงินที่ไม่มีความฉลาดทางการเงินก็จะหมดไปในไม่ช้า"

ลงทุนในความรู้ทางการเงิน หลายคนทำงานหนักเพื่อหาเงินแต่ขาดความรู้ทางการเงินที่จะรักษาและเพิ่มพูนเงินนั้น ช่องว่างความรู้นี้อธิบายได้ว่าทำไมผู้โชคดีจากลอตเตอรี่จึงมักหมดตัว และทำไมมืออาชีพที่มีรายได้สูงบางคนถึงประสบปัญหาทางการเงิน หัวข้อสำคัญของการศึกษาเรื่องการเงินได้แก่

  • บัญชี
  • การลงทุน
  • ความเข้าใจตลาด
  • กฎหมาย (โดยเฉพาะกฎหมายภาษี)
  • พื้นฐานการเงินส่วนบุคคล

การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น โลกการเงินเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มีเครื่องมือการลงทุนใหม่ กฎหมายภาษี และสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป รักษาความรู้ด้วยการ

  • อ่านหนังสือและวารสารการเงิน
  • เข้าร่วมสัมมนาและคอร์สเรียน
  • มีที่ปรึกษาหรือพี่เลี้ยง
  • สะสมประสบการณ์จริง (เริ่มจากเล็ก ๆ และเรียนรู้จากความผิดพลาด)

ด้วยการพัฒนาความฉลาดทางการเงิน คุณจะมีความพร้อมมากขึ้นในการมองเห็นโอกาส หลีกเลี่ยงกับดัก และตัดสินใจเรื่องเงินอย่างมีข้อมูล

6. คนรวยมุ่งเน้นเพิ่มคอลัมน์สินทรัพย์ของตน

"คนรวยซื้อสินทรัพย์ คนจนมีแต่ค่าใช้จ่าย ชนชั้นกลางซื้อหนี้สินที่คิดว่าเป็นสินทรัพย์"

ให้ความสำคัญกับการสะสมสินทรัพย์ ขณะที่คนจนใช้เงินไปกับค่าใช้จ่าย และชนชั้นกลางมักใช้เงินไปกับหนี้สินที่คิดว่าเป็นสินทรัพย์ เช่น รถยนต์ราคาแพงหรือบ้านหลังใหญ่ คนรวยจะลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น พฤติกรรมพื้นฐานนี้เมื่อสะสมไปนาน ๆ จะส่งผลลัพธ์ทางการเงินที่แตกต่างกันอย่างมาก

นำกำไรกลับมาลงทุนในสินทรัพย์เพิ่ม เมื่อคุณเริ่มมีรายได้จากสินทรัพย์

  • อย่าหลงใหลกับการเพิ่มระดับชีวิต
  • ใช้รายได้ส่วนเกินซื้อสินทรัพย์เพิ่ม
  • มุ่งเน้นการกระจายความเสี่ยง

วิธีนี้จะสร้างวงจรที่ดี เมื่อคอลัมน์สินทรัพย์ของคุณเติบโต มันจะสร้างรายได้มากขึ้น ซึ่งคุณสามารถใช้ซื้อสินทรัพย์เพิ่มได้อีก เมื่อเวลาผ่านไป การเติบโตแบบทวีคูณนี้จะนำไปสู่ความมั่งคั่งอย่างมีนัยสำคัญ

7. ใช้หนี้ที่ดีเพื่อซื้อสินทรัพย์ที่สร้างรายได้

"มีหนี้ที่ดีและหนี้ที่ไม่ดี หนี้ที่ดีคือเครื่องมือทรงพลัง แต่หนี้ที่ไม่ดีอาจทำลายคุณได้"

แยกแยะหนี้ที่ดีและหนี้ที่ไม่ดี หนี้ที่ไม่ดีใช้เพื่อการบริโภคหรือซื้อสินทรัพย์ที่เสื่อมค่า เช่น ยอดบัตรเครดิตหรือเงินกู้รถยนต์ หนี้ที่ดีใช้เพื่อซื้อสินทรัพย์ที่สร้างรายได้หรือมีแนวโน้มเพิ่มมูลค่า ตัวอย่างหนี้ที่ดีได้แก่

  • เงินกู้จำนองอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า
  • เงินกู้ธุรกิจเพื่อขยายกิจการ
  • เงินกู้มาร์จิ้นสำหรับการลงทุน (ใช้ด้วยความระมัดระวัง)

ใช้หนี้อย่างมีกลยุทธ์ เมื่อใช้หนี้อย่างชาญฉลาด หนี้จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนและช่วยให้คุณได้สินทรัพย์ที่ไม่สามารถซื้อด้วยเงินสดได้ หลักการสำคัญคือ

  • ให้แน่ใจว่าผลตอบแทนจากสินทรัพย์สูงกว่าต้นทุนดอกเบี้ย
  • มีช่องว่างความปลอดภัยเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด
  • เข้าใจและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

จำไว้ว่าแม้แต่หนี้ที่ดีก็มีความเสี่ยงเสมอ ต้องมีแผนชำระหนี้และหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เกินตัว

8. ลดภาษีด้วยกลยุทธ์ทางกฎหมายที่คนรวยใช้

"ไม่ใช่แค่คุณทำเงินได้เท่าไหร่ แต่สำคัญที่คุณเก็บเงินได้เท่าไหร่ เงินทำงานให้คุณหนักแค่ไหน และเก็บไว้ได้กี่รุ่น"

เข้าใจกฎหมายภาษี คนรวยมักจ่ายภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าชนชั้นกลางโดยใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ทางกฎหมายที่ถูกต้อง แนวคิดสำคัญได้แก่

  • บัญชีลงทุนที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี (เช่น 401(k), IRA)
  • กำไรจากการขายสินทรัพย์ (Capital Gains) เทียบกับรายได้ปกติ
  • ค่าเสื่อมราคาและค่าหักลดหย่อนทางธุรกิจอื่น ๆ
  • กลยุทธ์การบริจาคเพื่อการกุศล

นำกลยุทธ์ลดภาษีมาใช้ ตัวอย่างเช่น

  • ถือครองการลงทุนระยะยาวเพื่อใช้ประโยชน์จากอัตราภาษีกำไรต่ำ
  • ใช้การขายขาดทุนเพื่อลดภาษีกำไร
  • จัดโครงสร้างธุรกิจเพื่อเพิ่มการหักลดหย่อน
  • พิจารณาเครื่องมือการลงทุนที่มีประสิทธิภาพทางภาษี เช่น พันธบัตรเทศบาล

ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติตามกฎหมายและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ภาษี เป้าหมายคือการลดภาษีอย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงภาษี

9. สร้างและปกป้องความมั่งคั่งผ่านโครงสร้างบริษัท

"ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนรวยคือความสามารถในการควบคุมบริษัท"

ใช้ประโยชน์จากข้อดีของบริษัท บริษัทมีข้อได้เปรียบหลายประการในการสร้างและปกป้องความมั่งคั่ง เช่น

  • การปกป้องความรับผิดจำกัด
  • สิทธิประโยชน์ทางภาษี (เช่น การหักค่าใช้จ่าย)
  • การโอนกรรมสิทธิ์ที่ง่ายขึ้น
  • ความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น

เลือกโครงสร้างที่เหมาะสม ตัวเลือกทั่วไปได้แก่

  • บริษัทจำกัดความรับผิด (LLC)
  • บริษัท S
  • บริษัท C

แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคุณ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและภาษีเพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ใช้บริษัทอย่างมีกลยุทธ์ ตัวอย่างเช่น

  • ถือครองอสังหาริมทรัพย์ผ่าน LLC เพื่อปกป้องความรับผิด
  • ดำเนินธุรกิจเสริมผ่านบริษัท S เพื่อลดภาษีเงินได้จากการจ้างงาน
  • ใช้บริษัท C สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีแผนลงทุนและขยายกิจการ

ด้วยการจัดโครงสร้างสินทรัพย์และรายได้อย่างเหมาะสม คุณจะลดภาษี ปกป้องทรัพย์สินส่วนตัว และสร้างเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

10. พัฒนาความฉลาดทางการเงินเพื่อมองเห็นโอกาส

"ความฉลาดทางการเงินคือการมีทางเลือกที่มากขึ้น"

ปลูกฝังแนวคิดความมั่งคั่ง ความฉลาดทางการเงินไม่ได้หมายถึงแค่การจัดการเงินพื้นฐาน แต่รวมถึงความสามารถในการ

  • สังเกตแบบแผนและแนวโน้มในตลาด
  • คิดอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับทางออกทางการเงิน
  • มองเห็นสินทรัพย์หรือโอกาสทางธุรกิจที่ถูกประเมินค่าต่ำ
  • เข้าใจและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

ขยายมุมมองของคุณ เพื่อพัฒนาความฉลาดนี้

  • ศึกษากลยุทธ์การลงทุนและประเภทสินทรัพย์ต่าง ๆ
  • เรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวของตัวเองและผู้อื่น
  • สร้างเครือข่ายกับผู้คนจากหลากหลายพื้นฐานทางการเงิน
  • ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ

นำความรู้ไปใช้จริง ความฉลาดทางการเงินไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่คือการลงมือทำ

  • เริ่มต้นด้วยการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อสะสมประสบการณ์
  • วิเคราะห์ดีลและโอกาสที่เข้ามา
  • กล้ารับความเสี่ยงที่คำนวณมาอย่างรอบคอบ
  • ปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องตามผลลัพธ์

ด้วยการพัฒนาความฉลาดทางการเงิน คุณจะพร้อมรับมือกับโลกการเงินที่ซับซ้อน และสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้กับตัวเองและคนรุ่นหลังได้อย่างมั่นคง

อัปเดตล่าสุด:

FAQ

What's "Rich Dad Poor Dad" about?

  • Dual Perspectives: "Rich Dad Poor Dad" by Robert T. Kiyosaki contrasts the financial philosophies of his two fathers: his biological father (Poor Dad) and his best friend's father (Rich Dad).
  • Financial Education: The book emphasizes the importance of financial literacy and how it can lead to financial independence.
  • Mindset Shift: It challenges conventional beliefs about money, work, and education, advocating for a mindset that focuses on building assets rather than relying solely on earned income.
  • Practical Lessons: Through personal anecdotes, Kiyosaki shares lessons on investing, entrepreneurship, and financial management.

Why should I read "Rich Dad Poor Dad"?

  • Financial Literacy: It provides insights into financial education that are often missing from traditional schooling.
  • Mindset Change: The book encourages readers to think differently about money and wealth creation.
  • Practical Advice: Offers actionable advice on how to build wealth through investments and entrepreneurship.
  • Inspiration: It inspires readers to take control of their financial future and pursue financial independence.

What are the key takeaways of "Rich Dad Poor Dad"?

  • Assets vs. Liabilities: Understanding the difference between assets (which put money in your pocket) and liabilities (which take money out).
  • Financial Independence: The importance of creating passive income streams to achieve financial freedom.
  • Mind Your Own Business: Focus on building and managing your own assets rather than working for someone else.
  • Financial Education: Continuous learning and financial literacy are crucial for wealth building.

What are the best quotes from "Rich Dad Poor Dad" and what do they mean?

  • "The rich don’t work for money." This quote emphasizes the importance of having money work for you through investments and passive income.
  • "It’s not how much money you make, but how much money you keep." Highlights the significance of financial management and saving.
  • "The single most powerful asset we all have is our mind." Encourages investing in financial education and personal development.
  • "The love of money is the root of all evil." vs. "The lack of money is the root of all evil." Contrasts the perspectives of Poor Dad and Rich Dad on money's role in life.

How does Robert T. Kiyosaki define assets and liabilities?

  • Assets: According to Kiyosaki, assets are things that put money in your pocket, such as investments, real estate, and businesses.
  • Liabilities: Liabilities are things that take money out of your pocket, like mortgages, car loans, and credit card debt.
  • Financial Misunderstanding: Many people mistakenly consider liabilities as assets, such as a personal home, which can lead to financial struggles.
  • Cash Flow: The book emphasizes understanding cash flow patterns to distinguish between assets and liabilities effectively.

What is the "Rich Dad" philosophy on financial education?

  • Self-Education: Rich Dad advocates for self-education in financial matters, beyond what traditional schools teach.
  • Practical Experience: Encourages learning through real-world experiences, such as investing and entrepreneurship.
  • Continuous Learning: Stresses the importance of lifelong learning and adapting to financial changes and opportunities.
  • Financial IQ: Developing a high financial IQ is crucial for making informed investment decisions and achieving financial success.

How does "Rich Dad Poor Dad" suggest overcoming the fear of losing money?

  • Embrace Failure: The book suggests viewing failure as a learning opportunity rather than something to fear.
  • Risk Management: Encourages understanding and managing risks rather than avoiding them entirely.
  • Start Small: Begin with small investments to build confidence and experience without significant financial risk.
  • Mindset Shift: Changing your mindset about money and risk can help overcome the fear of losing money.

What is the significance of "mind your own business" in "Rich Dad Poor Dad"?

  • Focus on Assets: The phrase means focusing on building and managing your own assets rather than solely working for a paycheck.
  • Entrepreneurial Spirit: Encourages readers to think like entrepreneurs, even if they are employees, by creating additional income streams.
  • Financial Independence: By minding your own business, you work towards financial independence and security.
  • Long-Term Vision: It involves having a long-term vision for wealth creation and not just short-term financial gains.

How does "Rich Dad Poor Dad" address the concept of taxes and corporations?

  • Tax Advantages: The book explains how the rich use corporations to minimize taxes legally.
  • Corporate Structure: Corporations can pay for expenses with pre-tax dollars, offering significant tax benefits.
  • Financial Education: Understanding tax laws and corporate structures is part of financial education and wealth building.
  • Wealth Protection: Corporations also provide a layer of protection for personal assets against liabilities.

What role does financial intelligence play in "Rich Dad Poor Dad"?

  • Problem Solving: Financial intelligence is crucial for solving financial problems and making informed decisions.
  • Investment Strategies: It involves understanding investment strategies and market dynamics to grow wealth.
  • Continuous Improvement: Encourages continuous improvement and learning to enhance financial intelligence.
  • Wealth Creation: A high level of financial intelligence is necessary for creating and sustaining wealth over time.

How does "Rich Dad Poor Dad" suggest using money to work for you?

  • Investments: Invest in assets that generate passive income, such as real estate, stocks, and businesses.
  • Reinvest Earnings: Reinvest earnings from assets to grow your wealth exponentially.
  • Financial Literacy: Use financial literacy to identify and capitalize on investment opportunities.
  • Long-Term Focus: Focus on long-term wealth creation rather than short-term financial gains.

What are the practical steps to start building wealth according to "Rich Dad Poor Dad"?

  • Financial Education: Invest in your financial education through books, seminars, and courses.
  • Start Small: Begin with small investments to gain experience and confidence.
  • Build Assets: Focus on acquiring assets that generate passive income.
  • Network: Surround yourself with financially savvy individuals and learn from their experiences.

รีวิว

4.10 จาก 5
เฉลี่ยจาก 684.9K คะแนนจาก Goodreads และ Amazon.

หนังสือ พ่อรวยสอนลูก ได้รับความคิดเห็นที่หลากหลายจากผู้อ่าน บางคนมองว่าเป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมกับชื่นชมการอธิบายแนวคิดทางการเงินที่เข้าใจง่าย ช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านคิดใหม่เกี่ยวกับเงินและทรัพย์สิน ในขณะที่นักวิจารณ์บางส่วนมองว่าหนังสือเล่มนี้ขาดคำแนะนำที่ชัดเจน มีการย่อเรื่องซับซ้อนให้ดูง่ายเกินไป และส่งเสริมกลยุทธ์ทางการเงินที่อาจมีความเสี่ยง บางคนชื่นชอบเรื่องเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของคุณคิโยซากิและการเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาเรื่องการเงิน แต่ก็มีผู้อ่านบางกลุ่มที่รู้สึกว่าสไตล์การเขียนซ้ำซาก และข้ออ้างความสำเร็จของผู้เขียนยังน่าสงสัย อย่างไรก็ตาม ความนิยมและอิทธิพลของหนังสือเล่มนี้ต่อการเงินส่วนบุคคลยังคงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง แม้จะมีประเด็นถกเถียงอยู่บ้างก็ตาม

Your rating:
4.53
206 คะแนน

เกี่ยวกับผู้เขียน

โรเบิร์ต โทรุ คิโยซากิ คือ นักธุรกิจและนักเขียนชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงจากหนังสือชุด "พ่อรวยสอนลูก" ซึ่งเน้นเรื่องการเงินส่วนบุคคล เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทริชแดด ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้ทางการเงินผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ แม้ว่าคิโยซากิจะประสบความสำเร็จอย่างมากจากหนังสือที่ขายดีเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็เคยเผชิญกับความขัดแย้งและปัญหาทางกฎหมาย เช่น คดีฟ้องร้องกลุ่มจากผู้เข้าร่วมสัมมนา รวมถึงการถูกตรวจสอบโดยสื่อบางแห่ง คำแนะนำทางการเงินและแนวทางการทำธุรกิจของเขาถูกวิจารณ์โดยผู้เชี่ยวชาญบางส่วน ในปี 2024 เขาเปิดเผยว่ามีหนี้สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถทางการเงินและความน่าเชื่อถือของคำสอนที่เขานำเสนอ

Listen
Now playing
Rich Dad, Poor Dad
0:00
-0:00
Now playing
Rich Dad, Poor Dad
0:00
-0:00
1x
Voice
Speed
Dan
Andrew
Michelle
Lauren
1.0×
+
200 words per minute
Queue
Home
Library
Get App
Create a free account to unlock:
Recommendations: Personalized for you
Requests: Request new book summaries
Bookmarks: Save your favorite books
History: Revisit books later
Ratings: Rate books & see your ratings
100,000+ readers
Try Full Access for 7 Days
Listen, bookmark, and more
Compare Features Free Pro
📖 Read Summaries
All summaries are free to read in 40 languages
🎧 Listen to Summaries
Listen to unlimited summaries in 40 languages
❤️ Unlimited Bookmarks
Free users are limited to 4
📜 Unlimited History
Free users are limited to 4
📥 Unlimited Downloads
Free users are limited to 1
Risk-Free Timeline
Today: Get Instant Access
Listen to full summaries of 73,530 books. That's 12,000+ hours of audio!
Day 4: Trial Reminder
We'll send you a notification that your trial is ending soon.
Day 7: Your subscription begins
You'll be charged on Jun 27,
cancel anytime before.
Consume 2.8x More Books
2.8x more books Listening Reading
Our users love us
100,000+ readers
"...I can 10x the number of books I can read..."
"...exceptionally accurate, engaging, and beautifully presented..."
"...better than any amazon review when I'm making a book-buying decision..."
Save 62%
Yearly
$119.88 $44.99/year
$3.75/mo
Monthly
$9.99/mo
Start a 7-Day Free Trial
7 days free, then $44.99/year. Cancel anytime.
Scanner
Find a barcode to scan

Settings
General
Widget
Loading...