Searching...
ไทย
EnglishEnglish
EspañolSpanish
简体中文Chinese
FrançaisFrench
DeutschGerman
日本語Japanese
PortuguêsPortuguese
ItalianoItalian
한국어Korean
РусскийRussian
NederlandsDutch
العربيةArabic
PolskiPolish
हिन्दीHindi
Tiếng ViệtVietnamese
SvenskaSwedish
ΕλληνικάGreek
TürkçeTurkish
ไทยThai
ČeštinaCzech
RomânăRomanian
MagyarHungarian
УкраїнськаUkrainian
Bahasa IndonesiaIndonesian
DanskDanish
SuomiFinnish
БългарскиBulgarian
עבריתHebrew
NorskNorwegian
HrvatskiCroatian
CatalàCatalan
SlovenčinaSlovak
LietuviųLithuanian
SlovenščinaSlovenian
СрпскиSerbian
EestiEstonian
LatviešuLatvian
فارسیPersian
മലയാളംMalayalam
தமிழ்Tamil
اردوUrdu
The Autoimmune Solution

The Autoimmune Solution

Prevent and Reverse the Full Spectrum of Inflammatory Symptoms and Diseases
โดย Amy Myers 2015 400 หน้า
3.82
2k+ คะแนน
ฟัง
Try Full Access for 7 Days
Unlock listening & more!
Continue

ข้อสำคัญ

1. โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง: โรคระบาดยุคใหม่ที่ต้องการแนวทางใหม่

เมื่อพูดถึงการรักษาโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง การแพทย์แผนปัจจุบันกลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

ความล้มเหลวของการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนปัจจุบันมักเน้นเพียงการบรรเทาอาการโดยไม่สามารถแก้ไขสาเหตุที่แท้จริงของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองได้อย่างครบถ้วน การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการอาจช่วยได้ชั่วคราว แต่ก็มักมาพร้อมกับผลข้างเคียงและไม่สามารถหยุดยั้งการลุกลามของโรคได้ นอกจากนี้ การแบ่งแยกความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ยังทำให้ผู้ป่วยต้องพบแพทย์หลายสาขาที่เน้นรักษาอวัยวะเฉพาะส่วนโดยไม่มองภาพรวมของระบบภูมิคุ้มกัน

การแพทย์เชิงฟังก์ชัน: ทางเลือกแบบองค์รวม “The Myers Way” ซึ่งมีรากฐานจากการแพทย์เชิงฟังก์ชัน มองร่างกายเป็นระบบที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด โดยเน้นการค้นหาและขจัดปัจจัยต้นเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น อาหาร การใช้ชีวิต สารพิษในสิ่งแวดล้อม และความเครียด ด้วยการแก้ไขสาเหตุเหล่านี้ “The Myers Way” มุ่งหวังที่จะฟื้นฟูและป้องกันโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง แทนที่จะเพียงแค่จัดการกับอาการเท่านั้น

สเปกตรัมของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองไม่ได้เป็นเพียงภาวะที่มีหรือไม่มี แต่มีลักษณะเป็นสเปกตรัม ตั้งแต่ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันเต็มรูปแบบ ไปจนถึงผู้ที่มีอาการอักเสบเล็กน้อย หรือแม้แต่เพียงอาการบางอย่าง “The Myers Way” ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือทุกคนในสเปกตรัมนี้ ไม่ว่าจะต้องการฟื้นฟูโรคที่มีอยู่ ป้องกันไม่ให้เกิดโรค หรือเพียงแค่ปรับปรุงสุขภาพโดยรวม

2. การเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และภูมิคุ้มกัน: การรักษาจากภายในสู่ภายนอก

เพราะภูมิคุ้มกันของคุณกว่า 80% อยู่ในลำไส้

ลำไส้คือประตูสู่สุขภาพ ลำไส้มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยประมาณ 80% ของระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในทางเดินอาหาร เมื่อเยื่อบุลำไส้เกิดความเสียหายจนกลายเป็น “ลำไส้รั่ว” จะทำให้เศษอาหารที่ย่อยไม่สมบูรณ์ สารพิษ และเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันและนำไปสู่การอักเสบเรื้อรัง ดังนั้น การฟื้นฟูลำไส้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง

หลักการ 4Rs สำหรับการฟื้นฟูลำไส้ “The Myers Way” ใช้วิธีการ 4 ขั้นตอนเพื่อฟื้นฟูลำไส้ ได้แก่

  • Remove (กำจัด): ขจัดอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ สารพิษ และการติดเชื้อ
  • Restore (ฟื้นฟู): เติมเต็มเอนไซม์และกรดในกระเพาะอาหารที่จำเป็น
  • Reinoculate (เติมแบคทีเรียดี): นำแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์เข้าสู่ลำไส้ด้วยโพรไบโอติกและอาหารหมักดอง
  • Repair (ซ่อมแซม): ให้สารอาหารเช่น แอล-กลูตามีน และกรดไขมันโอเมก้า-3 เพื่อเสริมสร้างเยื่อบุลำไส้

ลำไส้รั่ว: รากเหง้าของปัญหา ลำไส้รั่วคือภาวะที่เยื่อบุลำไส้มีความพรุน ทำให้สารที่เป็นอันตรายสามารถผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันและการอักเสบเรื้อรัง รวมถึงอาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง การรักษาลำไส้รั่วจึงเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูและป้องกันโรคเหล่านี้

3. กลูเตน ธัญพืช และถั่ว: การระบุและกำจัดอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ

กลูเตน—โปรตีนที่พบในข้าวสาลี รำข้าวบาร์เลย์ และธัญพืชอื่น ๆ—สร้างความเครียดให้ระบบย่อยอาหารของคุณ และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะลำไส้รั่ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน

ผลกระทบของกลูเตนที่เป็นอันตราย กลูเตนซึ่งเป็นโปรตีนในข้าวสาลี รำข้าว และบาร์เลย์ สามารถกระตุ้นการอักเสบและทำให้เกิดลำไส้รั่วได้ แม้ในผู้ที่ไม่มีโรคเซลิแอค กลูเตนเซนซิทีฟเป็นภาวะที่พบได้บ่อยกว่ามากและอาจแสดงอาการหลากหลายเกินกว่าปัญหาทางเดินอาหาร เช่น สมองล้า เหนื่อยล้า และปวดข้อ การตัดกลูเตนออกจากอาหารจึงเป็นหัวใจสำคัญของ “The Myers Way”

ปัญหาของธัญพืชและถั่ว แม้แต่ธัญพืชและถั่วที่ปราศจากกลูเตนก็ยังมีสารเลคตินและสารอื่น ๆ ที่สามารถกระตุ้นการอักเสบและขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ดังนั้น “The Myers Way” แนะนำให้ตัดอาหารเหล่านี้ออกชั่วคราวเพื่อให้ลำไส้ได้ฟื้นฟู

ภาระกลูเตนในยุคปัจจุบัน การเกษตรและกระบวนการแปรรูปอาหารในยุคปัจจุบันทำให้เราสัมผัสกับกลูเตนมากขึ้น กลูเตนในข้าวสาลีสมัยใหม่ยังมีความก่อให้เกิดการอักเสบมากกว่าที่บรรพบุรุษเคยบริโภค การสัมผัสกลูเตนที่เพิ่มขึ้นนี้ รวมกับปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ส่งผลให้จำนวนผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตนและโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองเพิ่มสูงขึ้น

4. การจัดการภาระสารพิษ: ลดการสัมผัสและสนับสนุนการล้างพิษ

ทุกวันเราต้องเผชิญกับสารพิษนับพัน—ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และในสิ่งแวดล้อม—ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของเราต้องรับภาระหนักหน่วง

ความแพร่หลายของสารพิษในสิ่งแวดล้อม ชีวิตในยุคปัจจุบันทำให้เราต้องเผชิญกับสารพิษจากหลายแหล่ง เช่น อากาศ น้ำ อาหาร และผลิตภัณฑ์ในบ้าน สารพิษเหล่านี้สามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ นำไปสู่การอักเสบเรื้อรังและเพิ่มความเสี่ยงของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง การลดการสัมผัสสารพิษจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสนับสนุนสุขภาพภูมิคุ้มกัน

กลยุทธ์สำคัญ 4 ประการในการจัดการสารพิษ:

  • ทำความสะอาดอากาศ: ใช้เครื่องกรองอากาศ HEPA เพื่อลดมลพิษในอากาศ
  • ทำความสะอาดน้ำ: ติดตั้งเครื่องกรองน้ำเพื่อลดสารปนเปื้อนในน้ำดื่มและน้ำใช้
  • เลือกอาหารสะอาด: เลือกอาหารออร์แกนิก เลี้ยงด้วยหญ้า และเลี้ยงในทุ่งหญ้าเพื่อลดสารพิษและสารเคมี
  • เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่ปลอดสารพิษ: เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนตัวที่ปราศจากสารพิษแทนผลิตภัณฑ์ทั่วไป

สนับสนุนกระบวนการล้างพิษตามธรรมชาติของร่างกาย นอกจากการลดการสัมผัสสารพิษแล้ว “The Myers Way” ยังเน้นการสนับสนุนกระบวนการล้างพิษของร่างกายด้วยการบริโภคอาหารที่อุดมด้วยสารอาหาร รับประทานอาหารเสริมเฉพาะ เช่น กลูตาไธโอน และทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการล้างพิษ เช่น การออกกำลังกายและการอบซาวน่า ด้วยวิธีนี้ ร่างกายจะสามารถขจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน

5. ความเครียดและการติดเชื้อ: การเปิดเผยตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ซ่อนเร้น

การติดเชื้อบางชนิด รวมถึงความเครียดทางร่างกาย จิตใจ หรืออารมณ์ สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองได้

ผลกระทบของความเครียดต่อระบบภูมิคุ้มกัน ความเครียดเรื้อรังส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดความผิดปกติและเพิ่มความเสี่ยงของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอลอาจกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในช่วงแรก แต่ในระยะยาวกลับทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกกดทับ สร้างความไม่สมดุลที่กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองภูมิคุ้มกันผิดปกติ การจัดการความเครียดด้วยเทคนิคต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสนับสนุนสุขภาพภูมิคุ้มกัน

บทบาทของการติดเชื้อในโรคภูมิคุ้มกัน การติดเชื้อบางชนิด เช่น ไวรัส Epstein-Barr (EBV) และไวรัสเฮอร์ปีส์ (HSV) มีความเกี่ยวข้องกับโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง การติดเชื้อเหล่านี้สามารถกระตุ้นกลไก “molecular mimicry” ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันเข้าใจผิดว่าเนื้อเยื่อของร่างกายเป็นเชื้อโรคเนื่องจากมีลักษณะคล้ายกัน การรักษาการติดเชื้อด้วยยาต้านไวรัสและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการกำเริบของโรคภูมิคุ้มกันได้

การทำลายวงจรอุบาทว์ ความเครียดและการติดเชื้อสามารถสร้างวงจรอุบาทว์ที่ซ้ำเติมกันไปมา โดยความเครียดกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อ และการติดเชื้อก็เพิ่มความเครียด “The Myers Way” มุ่งเน้นการจัดการทั้งสองปัจจัยนี้เพื่อทำลายวงจรและฟื้นฟูความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน ผ่านการผ่อนคลาย ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และการรักษาการติดเชื้ออย่างเหมาะสม

6. The Myers Way: คู่มือปฏิบัติสำหรับการฟื้นฟูสุขภาพของคุณ

“The Myers Way” ไม่ใช่แค่แผนการรักษา แต่คือวิถีชีวิต

เสาหลักสี่ประการของ The Myers Way “The Myers Way” คือแนวทางครบวงจรในการฟื้นฟูและป้องกันโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง โดยยึดหลักสำคัญ 4 ประการ ได้แก่

  • ฟื้นฟูลำไส้ของคุณ
  • กำจัดกลูเตน ธัญพืช และถั่ว
  • ลดภาระสารพิษ
  • รักษาการติดเชื้อและบรรเทาความเครียด

โปรโตคอล 30 วันเพื่อการเปลี่ยนแปลง “The Myers Way” มีโปรโตคอล 30 วันที่วางแผนอย่างละเอียด พร้อมเมนูอาหาร สูตรอาหาร และคำแนะนำเรื่องอาหารเสริม เพื่อชี้นำผู้ป่วยในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นฟู ด้วยการปฏิบัติตามโปรโตคอลนี้ ผู้คนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในอาการและสุขภาพโดยรวม

หลังจาก 30 วัน: วิถีชีวิตที่ยั่งยืน แม้โปรโตคอล 30 วันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ “The Myers Way” ถูกออกแบบให้เป็นวิถีชีวิตระยะยาว ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจอย่างมีสติในเรื่องอาหาร การใช้ชีวิต และสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนสุขภาพภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง การนำ “The Myers Way” มาใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้รักษาความก้าวหน้าและป้องกันการกำเริบของโรคในอนาคต

7. การนำทางในระบบการแพทย์: เสริมพลังให้ตัวคุณเองในฐานะผู้ป่วย

คุณรู้จักร่างกายของตัวเองดีกว่าฉัน

ความสำคัญของการเป็นตัวแทนดูแลตนเอง การเดินทางในระบบการแพทย์อาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการดูแลตัวเอง เช่น การตั้งคำถาม ขอคำปรึกษาที่สอง และการเรียกร้องความต้องการของตนเอง เป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมว่าคุณคือผู้ที่รู้จักร่างกายตัวเองดีที่สุด และเสียงของคุณมีความสำคัญต่อกระบวนการฟื้นฟู

การค้นหาผู้ให้บริการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม “The Myers Way” สามารถนำไปใช้ร่วมกับการดูแลโดยแพทย์แผนปัจจุบัน หรือร่วมกับแพทย์เชิงฟังก์ชันที่เน้นการดูแลแบบองค์รวม แพทย์เชิงฟังก์ชันจะสอดคล้องกับหลักการของ “The Myers Way” ขณะที่แพทย์แผนปัจจุบันสามารถช่วยในการวินิจฉัยและจัดการยา การมีทีมแพทย์ที่เข้าใจและสนับสนุนเป้าหมายของคุณเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ

การบันทึกการเดินทางของคุณ การจดบันทึกรายละเอียดอาการ ผลตรวจ และการรักษาต่าง ๆ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการติดตามความก้าวหน้าและสื่อสารกับทีมแพทย์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เห็นรูปแบบ ประเมินผลการรักษา และตัดสินใจอย่างมีข้อมูล การมีระเบียบและความกระตือรือร้นจะช่วยเสริมพลังให้คุณนำทางในระบบการแพทย์และบรรลุสุขภาพที่ดีที่สุด

8. พลังแห่งความหวัง: เรื่องราวจริงของการเปลี่ยนแปลง

ความรู้สึกที่ได้ควบคุมสุขภาพของตัวเองนั้นยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ

เรื่องราวความสำเร็จเป็นแรงบันดาลใจ “The Myers Way” ได้ช่วยผู้คนจำนวนมากฟื้นฟูโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ขจัดอาการ และกลับมามีชีวิตที่เต็มเปี่ยม เรื่องราวเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังว่าสุขภาพที่ดีเป็นไปได้ และทุกคนสามารถควบคุมสุขภาพของตนเองได้ การเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านี้ช่วยให้ผู้อื่นมีแรงบันดาลใจและแนวทางในการเริ่มต้นเส้นทางฟื้นฟูของตนเอง

เรื่องราวของซูซาน: การกลับมาของความสุขและความสัมพันธ์ ซูซาน ผู้ประสบกับโรค transverse myelitis ได้รับการบรรเทาอาการปวดเรื้อรังและกลับมาเล่นกับหลาน ๆ ได้อีกครั้ง

อัปเดตล่าสุด:

รีวิว

3.82 จาก 5
เฉลี่ยจาก 2k+ คะแนนจาก Goodreads และ Amazon.

หนังสือเล่มนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ที่หลากหลาย บางคนมองว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ ด้วยการนำเสนอแนวทางที่ครอบคลุมเกี่ยวกับโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ขณะที่บางคนกลับมองว่าเนื้อหาเกินจริงและเข้มงวดเกินไป โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับเปลี่ยนอาหารและวิถีชีวิตที่ทำได้ยาก จุดเด่นของหนังสืออยู่ที่การอธิบายโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองอย่างละเอียด พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ แต่ข้อด้อยคือข้อมูลที่มากมายจนทำให้รู้สึกหนักใจ รวมถึงการใช้คำว่า "The Myers Way" ซ้ำซากหลายครั้ง ผู้อ่านจำนวนไม่น้อยชื่นชอบสูตรอาหารและแผนมื้ออาหารที่นำเสนอ แต่ก็มีบางส่วนที่มองว่าแนวทางโดยรวมไม่สมจริงและก่อให้เกิดความวิตกกังวลได้ง่าย

Your rating:
4.42
27 คะแนน

เกี่ยวกับผู้เขียน

เอมี่ ไมเยอร์ส, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟังก์ชัน ที่มีความชำนาญเฉพาะทางในโรคภูมิต้านตนเองและโรคไทรอยด์ เธอได้พัฒนาแนวทางที่เรียกว่า "The Myers Way" จากประสบการณ์ตรงของตัวเองกับโรคเกรฟส์ ไมเยอร์สได้ช่วยผู้ป่วยนับพันผ่านโปรแกรมอาหารที่เธอออกแบบ และได้รับการกล่าวถึงในสื่อหลากหลายช่องทาง หนังสือของเธอเรื่อง "The Autoimmune Solution" ได้รับการจัดอันดับเป็นหนังสือขายดีของ New York Times ไมเยอร์สยังคงมีบทบาทอย่างแข็งขันในโลกออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเธอ ที่ซึ่งเธอแบ่งปันข้อมูลและแหล่งความรู้เกี่ยวกับสุขภาพภูมิต้านตนเอง งานของเธอมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขสาเหตุรากฐานของโรคภูมิต้านตนเองผ่านการปรับเปลี่ยนอาหาร การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต และแนวทางเวชศาสตร์ฟังก์ชัน

Listen
0:00
-0:00
1x
Dan
Andrew
Michelle
Lauren
Select Speed
1.0×
+
200 words per minute
Home
Library
Get App
Create a free account to unlock:
Requests: Request new book summaries
Bookmarks: Save your favorite books
History: Revisit books later
Recommendations: Personalized for you
Ratings: Rate books & see your ratings
100,000+ readers
Try Full Access for 7 Days
Listen, bookmark, and more
Compare Features Free Pro
📖 Read Summaries
All summaries are free to read in 40 languages
🎧 Listen to Summaries
Listen to unlimited summaries in 40 languages
❤️ Unlimited Bookmarks
Free users are limited to 4
📜 Unlimited History
Free users are limited to 4
📥 Unlimited Downloads
Free users are limited to 1
Risk-Free Timeline
Today: Get Instant Access
Listen to full summaries of 73,530 books. That's 12,000+ hours of audio!
Day 4: Trial Reminder
We'll send you a notification that your trial is ending soon.
Day 7: Your subscription begins
You'll be charged on Jun 5,
cancel anytime before.
Consume 2.8x More Books
2.8x more books Listening Reading
Our users love us
100,000+ readers
"...I can 10x the number of books I can read..."
"...exceptionally accurate, engaging, and beautifully presented..."
"...better than any amazon review when I'm making a book-buying decision..."
Save 62%
Yearly
$119.88 $44.99/year
$3.75/mo
Monthly
$9.99/mo
Try Free & Unlock
7 days free, then $44.99/year. Cancel anytime.
Scanner
Find a barcode to scan

Settings
General
Widget
Loading...